- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Monday, 24 August 2020 23:39
- Hits: 9250
นักถ่ายภาพสารคดีชื่อดังเผยเบื้องหลังของอุตสาหกรรมไข่ไก่ในไทย
กับความโหดร้ายที่หลายคนอาจมองข้าม
แม่ไก่นับพันตัว ใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมาน แออัดอยู่ในกรงที่เล็กมาก เดินหรือกางปีกแทบไม่ได้
องค์กรนานาชาติแอนิมา อินเทอร์เนชั่นนัล และซิเนอร์เจีย แอนิมอล เผยแพร่สารคดีตีแผ่ความจริงของอุตสาหกรรมผลิตไข่ไก่ในประเทศไทย ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นแม่ไก่ใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานแออัดอยู่ในกรงซึ่งเล็กมาก เดินไปมาหรือกางปีกแทบไม่ได้ และต้องอยู่อย่างนี้ทั้งชีวิต ภาพสารคดีชุดนี้บันทึกโดยนักถ่ายภาพและนักเคลื่อนไหวพิทักษ์สัตว์ แอนดรูว สโควรอน พร้อมด้วยทีมจากแอนิมา อินเทอร์เนชั่นนัล โดยร่วมมือกับองค์กรพิทักษ์สัตว์ซิเนอร์เจีย แอนิมอล
สโควรอนกล่าวว่า “ผมได้เห็นฟาร์มไข่ไก่มาแล้วจากมากมายหลายประเทศ และทุกครั้งก็ใจหายกับความโหดร้ายที่ได้เห็น น่าเสียใจที่ฟาร์มไข่ไก่ในประเทศไทยก็ไม่ได้ต่างกันนัก สิ่งที่เกิดขึ้นมันไร้มนุษยธรรมอย่างมาก” ในฟาร์มไข่ไก่ในประเทศไทย แม่ไก่ต้องอยู่ท่ามกลางเสียงอื้ออึงและไม่มีโอกาสสัมผัสแสงธรรมชาติ ฟาร์มบางแห่งก็อยู่ในสภาพที่สกปรกมาก มีกองมูลไก่ ขนไก่ และไข่แตกบนพื้นและบางแห่งก็มีซากแม่ไก่ติดอยู่ในซี่กรง”
สโควรอนกล่าวต่อว่า “ผู้คนทั่วโลกเริ่มปฏิเสธกรงขังแล้ว แต่ฟาร์มบางแห่งที่เราไปก็ยังมีการใช้กรงเก่าจากสหภาพยุโรป ระบบกรงเป็นระบบที่ไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่งและถูกสั่งห้ามใช้ในสหภาพยุโรปแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012”
แอนดรูว สโควรอน ทำอาชีพเป็นนักถ่ายภาพสื่อในโปแลนด์ ประเทศบ้านเกิดของเขาเป็นเวลา 15 ปีก่อนจะตัดสินใจหันมาทุ่มเทให้กับการบันทึกภาพความจริงของสัตว์ที่ถูกใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและเพื่อความบันเทิงกับองค์กรนานาชาติ แอนิมา อินเทอร์เนชั่นนัล “เราทราบมาว่าความเห็นอกเห็นใจต่อสัตว์เป็นค่านิยมสำคัญในสังคมไทย และเราก็หวังว่าประเทศไทยจะมาร่วมเคลื่อนไหวต่อต้านกรงขังไปกับเรา ผู้บริโภคชาวไทยและแม่ไก่ในไทย สมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้”
ขบวนการผลิตไข่ไก่ที่ “ปกติ” แต่แสนทารุณในประเทศไทย
ทำไมต้องเป็นประเทศไทย
สโควรอนแอนิมา อินเทอร์เนชั่นนัล และซิเนอร์เจียแอนิมอล ตัดสินใจผลิตสารคดีชุดนี้ในประเทศไทยเพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยมีโอกาสได้ตัดสินใจอย่างมีข้อมูล วิชญะภัทร์ ภิรมย์ศานต์ ผู้จัดการฝ่ายการรณรงค์ประจำประเทศไทย ของซิเนอร์เจียแอนิมอล กล่าวว่า “เรานำภาพเหล่านี้มาเผยแพร่เพื่อให้คนไทยได้เห็นสภาพความเป็นจริง ที่คิดกันว่า “เป็นปกติ” แต่จริงๆ แล้วอาจจะไม่”
ภาพเหล่านี้บันทึกจากจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคมปี 2019 ประเทศไทยถูกเลือกเนื่องจากว่าเป็นประเทศผู้ผลิตไข่รายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีแม่ไก่อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตไข่ไก่กว่า 60 ล้านชีวิตต่อปี ไข่ไก่เป็นโปรตีนจากสัตว์ที่ถูกที่สุด และยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของเมนูอาหารที่เป็นที่นิยมหลาย เมนู เช่นผัดกะเพราหรือข้าวไข่เจียว
แม่ไก่ที่ต้องยืนบนพื้นลวดแข็ง กับชะตากรรมที่กำหนดไว้ตลอดชีวิตของพวกเขา
กรงตับเป็นระบบการผลิตที่โหดร้ายทารุณต่อสัตว์ที่สุดระบบหนึ่ง
การผลิตไข่ไก่โดยใช้กรงตับถือเป็นระบบหนึ่งที่โหดร้ายทารุณต่อสัตว์ที่สุด แม่ไก่แต่ละตัวมีพื้นที่ให้ใช้ชีวิตอยู่น้อยกว่ากระดาษเอสี่หนึ่งแผ่น และกรงแต่ละใบอาจบรรจุแม่ไก่ไว้ถึง 12 ตัว ด้วยเหตุนี้เอง แม่ไก่จึงต้องใช้แทบทั้งชีวิตโดยกางปีกเต็มที่แทบไม่ได้ เดินไปมาหรือหมุนตัวแทบไม่ได้ และยังถูกจำกัดการทำพฤติกรรมตามธรรมชาติซึ่งสำคัญต่อความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขา เช่น วางไข่ในรัง คุ้ยเขี่ยพื้นดิน และเกาะคอน
เป็นเรื่องปกติที่แม่ไก่ในระบบการเลี้ยงแบบใช้กรงจะมีโรคกระดูกร้าวหรือกระดูกพรุน เนื่องจากไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย และต้องออกไข่อยู่ตลอด และอาจขนร่วง เนื่องจากตัวครูดกับลวดโลหะซึ่งเป็นผนังกรงอยู่ตลอดเวลา วิชญะภัทร์กล่าวเสริมว่า “การขังแม่ไก่ไว้ในกรงในสภาพแบบนี้เป็นเรื่องโหดร้ายทารุณอย่างมาก นักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าไก่ก็รู้สึกเจ็บปวด เครียดและหวาดกลัวได้เหมือนกัน พวกเขาจึงน่าจะได้รับความเห็นอกเห็นใจมากกว่านี้”
ระบบกรงยังไม่ดีต่อความปลอดภัยด้านอาหารอีกด้วยงานวิจัยโดยองค์กรความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรป ระบุว่า กรงตับมีความเสี่ยงในการปนเปื้อนเชื้อแซลโมเนลลาสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับฟาร์มปลอดกรง
หลังจากได้ร่วมมือกับซิเนอร์เจียแอนิมอลบริษัทต่างๆ ได้แก่ เทสโก้โลตัส ซับเวย์ และเบอร์เกอร์คิง ต่างก็ประกาศเจตนารมณ์ว่าจะเลิกใช้ไข่ไก่จากฟาร์มที่ขังแม่ไก่ไว้ในกรงในประเทศไทยให้ได้ก่อนปี 2025 บริษัทนานาชาติอื่นๆ เช่น เนสท์เล่ ยูนิลีเวอร์ คราฟต์ไฮนซ์ และมอนเดลีซ อินเทอร์เนชั่นนัล ก็ได้ประกาศเจตนารมณ์อย่างเดียวกันสำหรับทั่วโลก ซึ่งจะครอบคลุมถึงทวีปเอเชียด้วย วิชญะภัทร์กล่าวปิดท้ายว่า “เรามีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวเอเชียก็ใส่ใจในสวัสดิภาพสัตว์และความปลอดภัยด้านอาหารเหมือนกัน ไม่มีใครที่อยากจะเห็นอาหารของตัวเองถูกผลิตในกระบวนการที่ผิดธรรมชาติเช่นนี้”
ผู้ที่สนใจสามารถรับชมวิดีโอสารคดีได้แล้ววันนี้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=J4809lImYZ4&feature=youtu.be
AO8687
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ