- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Friday, 26 June 2020 15:16
- Hits: 980
กรมโรงงาน ส่ง จม.ถึงโรงงานทั่วประเทศ ปรับธุรกิจสู่แฟคเตอรี่ 4.0 รับ New Normal ชี้ไม่ขยับเสี่ยงปิดกิจการ
อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมมั่นใจในปี 65 สามารถให้บริการอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการและประชาชนผ่านระบบออนไลน์แบบครบวงจรทั้งหมด สนองนโยบายแฟคเตอรี่ 4.0 พร้อมกันนี้ส่งหนังสือไปยังผู้ประกอบการกิจการโรงงานให้เร่งปรับตัวรองรับการเข้ามาของยุค New Normal
นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรอ.เตรียมส่งหนังสือไปยังโรงงานอุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพฯจำนวน 5,860 แห่ง และจะได้ประสานสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อแจ้งให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศมีหนังสือแจ้งเตือนผู้ประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบ ให้เร่งปรับตัวให้สอดคล้องกับภาวะปกติใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และพฤติกรรมหรือ นิวนอร์มอล เนื่องจากหลังการระบาดของโควิด-19 จะเกิดสิ่งที่เรียกว่านิวนอร์มอลในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของประชาชนที่ให้ความสำคัญเรื่องของเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านทางออนไลน์ และการใช้ระบบดิจิทัลมากขึ้น เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม หากโรงงานอุตสาหกรรมไม่ปรับตัวรองรับนิว นอร์มอลจะเสี่ยงต่อการดำเนินกิจการ และไม่สามารถแข่งขันได้
โดยปัจจุบัน กรอ.ได้มีการเตรียมความพร้อมที่จะนำผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมเข้าสู่นโยบายแฟคเตอรี่ 4.0 ซึ่งจะสอดคล้องกับพฤติกรรมนิวนอร์มอล โดยมีการตั้งเป้าหมายที่จะให้บริการผู้ประกอบการ ทั้งในรูปแบบการขอใบอนุญาต ร.ง.4,การจ่ายค่าธรรมเนียม,การยื่นคำขอและการออกใบสำคัญเกี่ยวกับวัตถุอันตรายหรือกากอุตสาหกรรม,การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ควบคุมระบบบำบัดมลพิษ รวมถึงการพัฒนาการบริการอื่น ๆ แบบออนไลน์ครบวงจรได้ในปี 2565
ทั้งนี้ นอกจากจะสร้างความโปร่งใสแล้วยังช่วยลดภาระ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทางมายังกรมโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้นผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมก็ต้องมีการปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีต่างๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกับหน่วยงานรัฐ และติดต่อกับลูกค้า เป็นต้น
โดยโครงการในปีงบประมาณ 2564 กรอ.ได้มีโครงการต่างๆที่สอดคล้องกับการเข้าสู่ยุคนิวนอร์มอลเช่น ระบบบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมแบบครบวงจร,ระบบการรับรองตนเองของผู้ประกอบกิจการโรงงาน (Self-Declaration) และการขึ้นทะเบียน/กำกับดูแลผู้ตรวจสอบเอกชน (Third Party), ระบบข้อมูลเพื่อการจัดการความปลอดภัยด้านสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม,ระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยมลพิษระยะไกล โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงกับระบบต่างๆที่ได้ลงทุนในปีงบประมาณ 2563 เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น ระบบเชื่อมโยงเอกสารราชการกับฐานข้อมูลประชาชนและบริการภาครัฐ,ระบบบูรณาการข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการวัตถุอันตราย,พัฒนาระบบทำเนียบสารเคมีและวัตถุอันตรายแห่งชาติ เป็นต้น
"กรอ.มีแผนที่จะพัฒนาโดยให้ความรู้กับโรงงานอุตสาหกรรมบางส่วน โดยเฉพาะโรงงานขนาดเล็กที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคการเปลี่ยนแปลงในภาวะปกติใหม่หรือนิวนอร์มอล ซึ่งที่ผ่านมา กรอ.ได้เร่งผลักดันการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาร่วมประยุกต์ใช้ ในการกำกับดูแลโรงงาน รวมถึงการนำนวัตกรรมด้านความปลอดภัยมาประยุกต์ใช้ควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการเพิ่มประสิทธิภาพในด้านต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้สอดรับตามแนวทางนโยบายแฟคเตอรี่ 4.0 ของรัฐบาล และเพื่อให้ระบบการทำงานมีความทันสมัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ทาง กรอ.พร้อมจะเดินหน้าสานต่อการดำเนินงานต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในยุคดิจิทัลอย่างต่อเนื่องต่อไป”
นายประกอบ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้สั่งการให้หน่วยงานภายใต้สังกัดของ กรอ.ปรับเปลี่ยนวิธีการให้บริการกับผู้ประกอบกิจการโรงงาน ผู้ประกอบการธุรกิจ และประชาชน ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล หรือผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อสร้างความสะดวกแก่ประชาชน และในสถานการณ์ปัจจุบันยังช่วยสร้างความปลอดภัย เพิ่มระยะห่างทางสังคม(Social Distancing) จากการระบาดไวรัสโควิด-19 โดยปัจจุบัน กรอ.ได้เปิดให้บริการกับผู้ประกอบกิจการโรงงาน ผู้ประกอบธุรกิจ และประชาชนมากกว่า 10 ภารกิจผ่านช่องทางออนไลน์ หรือเว็บไซต์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม www.diw.go.th
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ