WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

12173 IndexCreativeอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ยอดปี 2019 ผ่านฉลุย
ลุยตลาดเอเชีย และ ตะวันออกกลางต่อเนื่องตลอดปี 2020
ชี้การทำอีเว้นท์มาร์เก็ตติ้งต้อง NICHE, UNIQUE and LIMITED

          อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ยิ้มรับยอดรวมปี 2019 ปิดยอด 1,800 ล้านบาท ตามเป้าที่ตั้งไว้ โตขึ้นจากปีที่แล้ว 13% เผยภาพรวมธุรกิจอีเว้นท์ปีนี้ลดลงเนื่องด้วยภาวะเศรษฐกิจ โดย 3 กลุ่มธุรกิจหลักของอินเด็กซ์ฯ คือ 1. กลุ่มครีเอทีฟ บิซซิเนส ดีเวลลอปเม้นท์ (Creative Business Development) โต 119% 2. กลุ่มมาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส (Marketing Service) ลดลง 6% และ 3. กลุ่มโอน-โปรเจค (Own-Project) โต 65% เมื่อเทียบกับปี 2018 พร้อมลุยกลุ่มตลาดเอเชีย และตลาดตะวันออกกลางทั้งปี 2020 อย่างต่อเนื่อง

          นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน บริษัท ครีเอทีฟ อีเว้นท์ อันดับ 7 ของโลก (จัดอันดับโดยนิตยสารสเปเชี่ยล อีเว้นท์ แม็กกาซีน ประเทศสหรัฐอเมริกา) กล่าวว่า “เนื่องด้วยธุรกิจอีเว้นท์เป็นธุรกิจที่มีหลายปัจจัยหลักเป็นตัวกำหนด ทั้งเรื่องเหตุการณ์การเมือง หรือภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ทำให้ผู้ประกอบการต่างต้องปรับตัว ซึ่งอินเด็กซ์ฯ ได้มีการวางแผน และปรับตัวทั้งในเรื่องของธุรกิจ ให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจ และสถานการณ์ต่างๆ โดยได้เดินหน้าพัฒนาธุรกิจ Own Project ให้หลากหลายตรงตามกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ผลประกอบการปี 2562 ผ่านฉลุย ปิดยอดได้ตามเป้า ซึ่งปิดยอดอยู่ที่ประมาณ 1,800 ล้านบาท โดยคิดเป็นสัดส่วนจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1. กลุ่มครีเอทีฟ บิซซิเนส ดีเวลลอปเม้นท์ (Creative Business Development) โต 119% 2. กลุ่มมาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส (Marketing Service) ลดลง 6% และ 3. กลุ่มโอน-โปรเจค (Own-Project) โต 65% เมื่อเทียบกับปี 2018”

          “โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจกลุ่มโอน-โปรเจค (Own-Project) ไลฟสไตล์ เทรดแฟร์ ที่ได้ให้น้ำหนัก และได้วางกลยุทธ์การขยายตลาดออกสู่ต่างประเทศมานานกว่า 7 ปี ทำให้สัดส่วนในการขยายธุรกิจเพิ่มเป็นเท่าตัว หรือประมาณ 1 ใน 3 ของกลุ่มอีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้ง หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากจากการยกโมเดลธุรกิจในประเทศไทยไปใช้ในประเทศเมียนมา เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งในปี 2020 อินเด็กซ์ฯ ได้เพิ่มเทรดแฟร์ในกัมพูชาจากเดิมประจำที่ครอบคลุม กลุ่มอุตสาหกรรมทั้งหมด 4 อุตสาหกรรมได้แก่ อุตสาหกรรมก่อสร้างและตกแต่งภายใน อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมค้าปลีก และอุตสากหรรมความงามและสุขภาพ โดยจะแบ่งเป็น 5 งานคือ งานแคมโบเดีย อาคิเทค แอนด์ เดคอว์ 2020 (Cambodia Architect & Décor 2020) งานแคมโบเดียเฮลท์ แอนด์ บิ้วตี้ 2020 (Cambodia Health & Beauty Expo) ที่จะจัดระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายน 2020 และในประเทศเมียนมา กับงานเมียนมา ฟู้ดเบฟ 2020 (Myanmar FoodBev 2020) งานเมียนมา รีเทล ซอสซิง เอ็กซ์โป 2020 (Myanmar Retail Sourcing Expo 2020) จัดระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคม 2020 และงานเมียนมา บิวท์ แอนด์ เดคคอว์ 2020 (Myanmar Build & Décor 2020) จัดระหว่างวันที่ 1-3 ตุลาคม 2020 ซึ่งในประเทศไทยยังมีงานแบงคอกบิวตี้โชว์ 2020 (Bangkok Beauty Show 2020) ที่จัดระหว่าง วันที่ 16-18 กรกฏาคม 2563 ณ ฮอลล์ 101 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ซึ่งจัดอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ถือเป็นการสร้างโอกาส และเจาะตลาดใหม่ๆ”

          “ทั้งนี้แผนในปี 2020 ของบริษัท มุ่งโฟกัสธุรกิจไปที่ การขยายฐานในงานประเภท Own Project เตรียมส่งโปรเจคสร้างสรรค์ที่สร้างความสด และใหม่ให้กับวงการทันที ด้วยพื้นฐานหลักของความคิดสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศอย่างครบวงจร อย่าง KILORUN 2020 ทีมีทั้งหมด 4 ที่ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต กรุงเทพมหานคร โอซาก้า และสิงคโปร์ ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 คาดการณ์จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ในกลุ่มโอน-โปรเจค (Own-Project) สูงถึง 100% และมุ่งเจาะกลุ่มไปในกลุ่มเอเชีย (ASIA) และตะวันออกกลาง (MIDDLE EAST) อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด อินเด็กซ์ได้บิดดิ้งงานชนะบริษัทอีเว้นท์ 9 ประเทศทั่วโลก กับงาน “Qatar the Glory Operetta” ที่มีงบลงทุนกว่า 150 ล้านบาท”

          “และยังเป็นการตอกย้ำว่า อินเด็กซ์ฯ เป็นเวิลด์คลาส ด้วยการคว้ารางวัลทั้งในประเทศและต่างประเทศเริ่มด้วยรางวัลจาก Adman Awards 2019 ที่จัดโดยของสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กับ 2 รางวัลจากงานเปิดตัวไอคอนสยาม รางวัลจาก MAT Award ครั้งที่ 11 ที่จัดโดยสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมและเชิดชูนักการตลาดไทยที่มีศักยภาพ สร้างแรงบันดาลใจ และสนับสนุนการพัฒนานักการตลาดไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล กับสุดยอดแคมเปญการตลาดจาก KILORUN 2019 และยังคว้ารางวัลมาถึง 2 รางวัล ในเวทีระดับเอเชีย จาก The Special Event Awards 2019 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในทวีปเอเชีย ณ ประเทศสิงคโปร์ กับรางวัล Best Use Of New Technology at an event และ Best Light & Sound Production จากงานเปิดตัวไอคอนสยาม อินเด็กซ์ฯเคยคว้ารางวัลนี้จากเวที The Special Event Awards มาเเล้ว ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2005 นี่จะเป็นกำลังใจเเละเเรงผลักดันให้เราก้าวสู่ความสำเร็จอีกขั้น ในฐานะ ‘World Class Creator’”

          “พร้อมเผยแนวโน้มของเทรนด์ในส่วนอีเว้นท์มาเก็ตติ้งปีหน้า 2020 นั้น ด้วยเรื่องความคล่องของสภาพเศรษฐกิจที่ลดต่ำลง จะเป็นตัวแปรให้คนจับจ่ายใช้สอยลดลงไปด้วย แต่ที่สำคัญคือจะเลือกความคุ้มค่าสูงสุดในการใช้เงินโดยเฉพาะในการเข้าร่วมอีเว้นท์ใดอีเว้นท์หนึ่ง ดังนั้นอีเว้นท์จึงจำเป็นต้องมี NUL อย่างแรกคือ Niche กลุ่มตลาดที่เฉพาะและตรงเป้าหมาย ความ Unique ที่ไม่เหมือนใคร สุดท้ายคือ Limited คือจำนวนจำกัดและหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ซึ่งเป็นการตลาดที่กระตุ้นให้คนเลือกจ่ายเงินเพื่อแลกกับประสบการณ์ที่พลาดไม่ได้โดยไม่เสียดายเงิน”

          “และในส่วนของภาพรวมกลุ่มอุตสาหกรรมอีเว้นท์ในประเทศไทยนั้นยังคงทรงตัวหรือติดลบไปจนถึงปลายปี 2563 เนื่องด้วยเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทั้งนี้น่าจะติดลบ 1-2% ด้านภาพรวมของธุรกิจของอินเด็กซ์ฯ ในปีหน้านั้น มีงานสเกลใหญ่จำนวน 4-5 งานหลัก ทำให้มี Backlog อยู่ที่ 500 ล้านบาท คาดการณ์ด้านผลประกอบการจะเติบโตสูงถึง 6-10% หรือราว 1,900 ล้านบาท” นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน กล่าวทิ้งท้าย

 


AO12173

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

ais 790x90GC 790x90

sme 720x90banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!