WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

08589 UOB

 

ยูโอบี และเดอะ ฟินแล็บหนุน 15 เอสเอ็มอีไทย ทะยานสู่ความเป็นดิจิทัล

ด้วยโครงการ Smart Business Transformation ครั้งแรกในประเทศไทย

ธนาคารยูโอบี (ไทย) แสดงผลงานการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ดิจิทัลของเอสเอ็มอีไทย 15 บริษัท จาก โครงการ Smart Business Transformation ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยธนาคารยูโอบี (ประเทศไทย) และเดอะ ฟินแล็บ ภายใต้การสนับสนุนจากองค์กรพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)

ภายใต้การชี้แนะจากผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ และเทคโนโลยีทั้งในประเทศและต่างประเทศ เอสเอ็มอีผู้เข้าร่วมโครงการ ได้ทบทวนรูปแบบธุรกิจของตนเอง วิเคราะห์หาโอกาสเพื่อพัฒนาและกำหนดแผนยุทธศาสตร์ในการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลในระยะยาว รวมถึงประเมินและประยุกต์ใช้โซลูชั่นนำร่องที่เดอะ ฟินแล็บคัดสรรมาจากกว่า 350 แอพพลิเคชั่น

เอสเอ็มอี ได้เลือกใช้โซลูชันเพื่อจัดการความท้าทายต่างๆ ที่ประสบปัญหาอยู่ เช่น วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อรู้ใจลูกค้ามากขึ้น การทำตลาดโดยใช้ดิจิทัลช่วยในการเข้าถึงลูกค้า เพิ่มยอดขาย และสร้างวิธีการปรับปรุงประสิทธิภาพผ่านการปรับกระบวนการธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจที่ทางเดอะ ฟินแล็บได้จัดทำไปก่อนหน้านี้และพบว่า เอสเอ็มอีในประเทศไทยระบุว่ากลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโต 2 อันดับแรก คือ การรุกตลาดใหม่ (ร้อยละ54) และการใช้การตลาดระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มยอดขาย (ร้อยละ 51)

นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า “โครงการ Smart Business Transformation เป็นโครงการที่เรามีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะช่วยติดอาวุธและทักษะเอสเอ็มอีไทย ให้สามารถเติบโตได้ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และยังตระหนักถึงบทบาทหลักของธนาคารยูโอบี ที่จะต้องดำเนินการให้สอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งมีเป้าหมายที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีไทยนำนวัตกรรมดิจิทัลมาประยุกต์ใช้พัฒนาธุรกิจและสร้างเครือข่ายในการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ”

นายเฟลิกซ์ ตัน หัวหน้ากลุ่มงานร่วม เดอะ ฟินแล็บ กล่าวว่า “ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 15 บริษัทที่เข้าร่วมโครงการ Smart Business Transformation มีความความมุ่งมั่น ที่จะขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงธุรกิจ ทั้งยังเปิดกว้างต่อแนวคิด และโซลูชันใหม่ๆ ซึ่งจากความรู้และแนวทางปฏิบัติที่ได้รับไม่เพียงแต่จะสามารถต่อยอดการปรับเปลี่ยนธุรกิจเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่งพร้อมรับมือต่อความท้าทายในอนาคต นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจและทิศทางธุรกิจเอสเอ็มอีของประเทศไทย ทั้งยังเป็นการสนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่ต้องการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศได้ถึงร้อยละ 50 ภายในปี 2568 จากร้อยละ 36 ในปี2561”

 

ผลลัพธ์เชิงบวกของเอสเอ็มอีจากการเข้าร่วมโครงการนำร่องนวัตกรรมดิจิทัล

หนึ่งในเอสเอ็มอีที่ได้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ บริษัท เอ็ม.ซี.ซี. อินดัสเทรียล นิว 1999 จำกัด  (เอ็ม.ซี.ซี 4x4 แอคเซสซอรี่) ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์และผลิตอะไหล่สำหรับรถออฟโรดส์ขับเคลื่อน 4 ล้อ โดย เอ็ม.ซี.ซี. 4x4 แอคเซสซอรี่ ได้นำโชลูชัน Workforceที่พัฒนาโดยบริษัทไทย มาใช้ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล นอกจากนี้ยังได้รับทักษะการจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change Management) และสามารถนำโซลูชันทางดิจิทัลไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นางสาวชนกพร ศิระนานนท์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ บริษัท เอ็ม.ซี.ซี. อินดัสเทรียล นิว 1999 จำกัด กล่าวว่า “โครงการ Smart Business Transformation ช่วยให้เราสามารถขับเคลื่อนความต่อเนื่องและการเปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสำคัญมากสำหรับเราในฐานะธุรกิจครอบครัวที่ต้องการขยายธุรกิจในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ตอนนี้เรามีความมั่นใจมากขึ้นที่จะผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และได้เริ่มนำโซลูชันมาใช้ในการทำงานกับบริษัทคู่ค้าต่างๆ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด ผู้ให้การสนับสนุนหลักชุดแข่งนักฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นอีกหนึ่งเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมโครงการ โดยวอริกซ์ได้ทำงานกับ Boostorder ผู้ให้บริการโซลูชันอีคอมเมิร์ซจากประเทศมาเลเชีย เป็นผู้พัฒนาระบบงานขายผ่านช่องทางออนไลน์

นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด กล่าวว่า “โครงการ Smart Business Transformation ช่วยให้บริษัทฯ พัฒนาโครงสร้างการบริหารและปรับขนาดธุรกิจ เราได้เรียนรู้ความสำคัญของการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจให้โตอย่างมั่งคงและยั่งยืน นอกจากนี้เรายังได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Boostorder ผู้พัฒนาโซลูชั่น ในการปรับกระบวนการหลักและช่องทางการจัดจำหน่ายให้เป็นดิจิทัล เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตของยอดขายออนไลน์ 15% ภายในสิ้นปีนี้”

 

UOB (Thai) and The FinLab help 15 Thai SMEs transform digitally through the country’s first Smart Business Transformation Programme

UOB (Thai) today showcased the digital transformation of 15 small-and medium-sized enterprises (SMEs) from the first Smart Business Transformation Programme held in Thailand. The programme, which began in May, was conducted by UOB (Thai) and The FinLab, in collaboration with the Digital Economy Promotion Agency (depa), National Science and Technology Development Agency (NSTDA) and the Office of SMEs Promotion (OSMEP). 

Under the guidance from business, creative and technology experts in Thailand and across the region, the SMEs reviewed their business models, identified opportunities for improvement and mapped out long-term digital transformation strategies. The SMEs also evaluated and piloted technology solutions curated from more than 350 applications received by The FinLab. 

The solutions piloted addressed various business challenges, including how to apply data analytics to understand existing and new customers better, how to use digital marketing to increase leads and sales, and how to improve efficiency through business process optimisation. These are very much in line with the findings of an online survey conducted by The FinLab, where SMEs in Thailand said their top two business growth strategies are entering new markets (54 per cent) and using digital marketing to grow sales (51 per cent). 

Mr Tan Choon Hin, President and Chief Executive Officer, UOB (Thai), said, “The Smart Business Transformation Programme demonstrates our commitment to helping Thai SMEs embrace and be equipped for the growth opportunities presented by the digital economy. We recognise the active role we can play in contributing to the Thailand 4.0 initiative, which aims to help Thai SMEs innovate and adopt technology. With our established and integrated network across the region, UOB (Thai) is well-positioned to partner SMEs in their ambition to grow their businesses domestically and overseas. 

Mr Felix Tan, Co-Head, The FinLab, said, “Through the Smart Business Transformation Programme, it was clear that each of these 15 SMEs have the drive and desire to transform their business. Throughout the programme, they displayed their commitment to tackling the issues within their businesses and openness to incorporating new ideas and digital solutions. With the know-how they have gained, they will not only be able to continue their business transformation but will be in a stronger position to face future challenges. These outcomes augur well for Thailand’s economic and business landscape, and also support the Thailand 4.0 initiative which aims to grow the GDP contribution from SMEs to 50 per cent by 2025.”

 

Positive outcomes from digital pilots implemented by SMEs

One of the SMEs that completed the programme is MCC Industrial New 1999 Co. Ltd, an automotive company which manufactures accessories for 4x4 off-roaders. Through the programme, MCC 4x4 Accessories connected with digital solutions that can help smoothen its business processes, such as Workforce, a Thailand-based labour management software. It also gained change management skills to implement these solutions effectively. 

Ms Chanokporn Sirananont, Business Development Manager, MCC 4x4 Accessories said, “The Smart Business Transformation Programme has better equipped us to drive continuity and change, which is important to us as a family-run business looking to expand in the digital economy. We are now more confident to drive digital transformation, and are currently working with partners and digital solutions to implement workflow processes with faster turnaround and greater efficiency.”

Warrix Sport Co. Ltd, the official kit sponsor for the Thailand National Football Team, is another graduate of the programme. Warrix is working with various technology providers, such as Boostorder, a Malaysian-based e-commerce solution provider, to develop a system to manage sales on multiple online channels. 

Mr Wisan Wanasaksrisakul, Chief Executive Officer, Warrix, said, “The Smart Business Transformation Programme has helped us develop a structured approach to managing and to scaling our business. Recognising that a strong foundation is key to sustainable business growth, we are working closely with technology solution providers such as Boostorder to digitalise our core processes and sales channels. This approach will help us meet our online sales growth target of 15 per cent by year-end.” 

 

AO08589

3

Click Donate Support Web

ais 790x90

GC 950x120

sme 720x90

banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!