- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Monday, 22 September 2014 22:22
- Hits: 3688
ชาวไร่ทำใจราคาอ้อยส่อแววตกต่ำ
บ้านเมือง : นายธีระชัย แสนแก้ว ประธานชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน เปิดเผยว่า ชาวไร่และโรงงานได้ประเมินปริมาณอ้อยเบื้องต้นที่จะเข้าสู่ฤดูหีบปี 2557/58 ในช่วง พ.ย.ที่จะถึงนี้มีแนวโน้มสูงที่ปริมาณอ้อยในฤดูหีบนี้จะไม่ถึง 100 ล้านตัน จากฤดูการผลิตก่อนหน้าที่ทำไว้ 103 ล้านตันเนื่องจากพบว่าหลายพื้นที่ทั้งภาคกลาง อีสานตอนบน และล่าง ประสบภาวะภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงมาตกในช่วงท้ายๆ ส่งผลให้อ้อยแล้ง ผลผลิตในภาคกลางและอีสานมีทิศทางลดลงจากปีก่อนในภาพรวม
ทั้งนี้ ยังพบว่าการคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิต 57/58 ที่จะต้องดำเนินการภายใน ต.ค.นี้ ยังมีทิศทางลดลงตามราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกที่ขณะนี้มีราคาเฉลี่ยเพียง 15 เซ็นต์ต่อปอนด์เท่านั้น โดยคาดว่าราคาอ้อยขั้นต้นฤดูใหม่นี้จะอยู่ที่เฉลี่ย 850-900 บาทต่อตัน ขณะที่ฤดูการผลิตปี56/57 ราคาอ้อยขั้นต้นประกาศที่ 900 บาทต่อตันที่ระดับความหวาน 10 CCS ดังนั้นหากคำนวณต้นทุนที่ชาวไร่อ้อยมีอยู่เฉลี่ยกว่า 1,000 บาทต่อตัน จึงเห็นว่ายังคงมีความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องช่วยเหลือชาวไร่ในเรื่องการสนับสนุนแหล่งเงินกู้เพิ่มค่าอ้อย ซึ่งที่ผ่านมาจะเป็นการกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
"แนวทางการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายจะมุ่งเน้นการเพิ่มผลผลิตอ้อยในระยะสั้น ส่วนการดำเนินงานเรื่องอื่นๆ ยังคงต้องอาศัยเวลาในการหาข้อยุติและช่วงจังหวะที่เหมาะสม เนื่องจากยอมรับว่าช่วงนี้ราคาน้ำตาลตลาดโลกตกต่ำการดำเนินการใดๆ จะต้องระมัดระวัง ซึ่งเห็นว่าระบบแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างชาวไร่อ้อยและโรงงาน 70:30 ดีอยู่แล้วไม่ต้องเปลี่ยน แต่ควรจะมองในเรื่องของการนำผลพลอยได้มาคำนวณเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชาวไร่อ้อย เช่น เอทานอล การนำเศษอ้อยไปทำโรงไฟฟ้าชีวมวล" นายธีระชัย กล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 57/58 ที่จะประกาศในช่วง ต.ค.นี้ มีแนวโน้มสูงที่จะต่ำกว่า 900 บาทต่อตัน ซึ่งเข้าใจว่าที่สุดชาวไร่อ้อยก็คงจะเรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุน ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ผ่านกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเช่นที่ผ่านๆ มา ซึ่งฤดูการผลิตปี 56/57 จากราคาอ้อย 900 บาทต่อตัน ที่ค่าความหวาน 10 CCS ก็เพิ่มให้อีกตันละ 160 บาท โดย ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ผ่านกองทุนฯ วงเงินประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท
"การกู้ ธ.ก.ส.เพื่อเพิ่มค่าอ้อยตั้งแต่ปี 2551 จะเป็นลักษณะการใช้หนี้เก่าหมดแต่หากต้องกู้ในฤดูการนี้ก็จะเท่ากับเป็นการกู้ใหม่ ทั้งที่เงินเก่ายังใช้หนี้ไม่หมดวงเงิน หนี้ก็จะสูงขึ้น การชำระหนี้ก็จะยาวออกไป และถ้าปีต่อๆ ไปเป็นปัญหาเช่นนี้อีกจะทำอย่างไร การเพิ่มค่าอ้อยเช่นนี้เป็นเหมือนยาเสพติดไปแล้วแก้ไขยากมาก และถ้าเป็นอย่างนี้การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบก็จะทำยากยิ่งขึ้น ดังนั้นแนวทางคงต้องทำเป็นเรื่องๆ ไป" แหล่งข่าว กล่าว