WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ยกระดับสู่ฐานผลิตอุปกรณ์การแพทย์

    แนวหน้า : นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงฯมีเป?หมายผลักดันให้ไทยเป?นฐานการผลิตอุตสาหกรรมทางการแพทย์และสุขภาพที่สำคัญในอาเซียน ภายในปี 2563 เน้นผลิตสินค้าที่มีนวัตกรรม และยกระดับมาตรฐานให้เป?นที่ยอมรับในระดับสากลด้วยราคาที่เหมาะสม แทนการนำเข้าสินค้าที่มีราคาสูงจากต่างประเทศ และสร้างโอกาสให้อุตสาหกรรมในประเทศเชื่อมต่อเครือข่ายการผลิตของโลก

   ทั้งนี้ กระทรวงฯมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) ดำเนินโครงการนำร่อง 3 โครงการ เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนมีการตื่นตัวร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยโครงการได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2555 และใน 2 ป?แรกถือว่าดำเนินการได้ดี จึงจะผลักดันโครงการนี้ต่อเนื่องในปี 2557 เป็นปีที่ 3 และจะเร่งผลักดันมาตรการอื่นๆควบคู่กัน เช่น การส่งเสริมการใช้วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ผลิตในประเทศ และแก้ไขกฎระเบียบที่ยังเป็นอุปสรรค

    นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) กล่าวว่า ทั้ง 3 โครงการที่ สศอ.ดำเนินการในปี2555-2556 คือ 1.โครงการพัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และสุขภาพ ด้านการเพิ่มผลิตภาพ และพัฒนามาตรฐาน ISO 13485 โดยพัฒนาทั้งด้านการบริหารและการผลิตให้กับโรงงาน 24 แห่ง ซึ่งสามารถลดต้นทุนรวม 296 ล้านบาท และมีโรงงานที่มีความพร้อมในการขอรับรอง มาตรฐาน ISO13485 จำนวน 50 แห่ง

    2.โครงการวิจัยพัฒนาและออกแบบวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และสุขภาพ มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการส่งเสริม 29 ผลิตภัณฑ์ มีการลงทุนมากกว่า 300 ล้านบาท และ3.โครงการศึกษาวิจัยโอกาสทางธุรกิจและการเพิ่มมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ ทางการแพทย์

    สำหรับโครงการต่อเนื่องในปี 2557 สศอ.จะดำเนินการใน 3 โครงการ เพื่อให้ครอบคลุมคลัสเตอร์ของอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์มากขึ้น โดยขยายเป?หมายโรงงานที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มอีก 50 แห่ง ขยายเป?หมายผลิตภัณฑ์เข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 11 ผลิตภัณฑ์

สศอ.ดันกลุ่มอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์

    บ้านเมือง : นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเห็นถึงความสำคัญและศักยภาพของอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่สามารถพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทยในอนาคต มีเป้าหมายพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมทางการแพทย์และสุขภาพที่สำคัญในอาเซียนภายในปี 2563 โดยเน้นผลิตสินค้าที่มีนวัตกรรม และยกระดับมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลด้วยราคาที่เหมาะสม แทนการนำเข้าสินค้าที่มีราคาสูงจากต่างประเทศ และสร้างโอกาสให้อุตสาหกรรมในประเทศเชื่อมต่อเครือข่ายกับ Supply Chain ของโลก โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ดำเนินโครงการนำร่องจำนวน 3 โครงการ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สร้างกระแสการตื่นตัวให้กับทุกภาคส่วนร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ไทยให้ก้าวหน้าต่อไป ซึ่งทั้ง 3 โครงการนับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง กระทรวงอุตสาหกรรมจึงมีแผนที่จะผลักดันงบประมาณโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง และจะเร่งผลักดันมาตรการอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น การส่งเสริมการใช้วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ผลิตในประเทศ และการแก้ไขกฎระเบียบที่ยังเป็นอุปสรรคต่างๆ เป็นต้น

     นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า สศอ.ได้ดำเนินโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และสุขภาพร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ในปี 55-56 จำนวน 3 โครงการ โดยแต่ละโครงการมีผลการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ดังนี้ 1.โครงการพัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และสุขภาพด้านการเพิ่ม Productivity และพัฒนามาตรฐาน ISO 13485 โดยพัฒนาผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรม ทั้งด้านการบริหารจัดการและการผลิต ให้กับโรงงานทั้งสิ้นจำนวน 24 โรงงาน ผลจากการดำเนินงานสามารถขยายผลในการลดต้นทุนคิดเป็นมูลค่ากว่า 296 ล้านบาท สำหรับในส่วนของการรับรองมาตรฐาน ISO 13485 นั้น มีโรงงานที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 81 โรงงาน โดยมีความพร้อมในการขอรับรองมาตรฐานแล้วจำนวน 50 โรงงาน

    ส่วน 2.โครงการวิจัยพัฒนาและออกแบบวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และสุขภาพ โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา โครงการนี้ได้ช่วยยกระดับศักยภาพในการออกแบบและนวัตกรรมของผู้ประกอบการไทยให้สูงขึ้น มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการส่งเสริมจำนวน 29 ผลิตภัณฑ์ ก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในอุตสาหกรรมได้มากกว่า 300 ล้านบาท และ 3.โครงการศึกษาวิจัยโอกาสทางธุรกิจและการเพิ่ม Value Creation สำหรับอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทาง

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!