- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Thursday, 18 September 2014 22:23
- Hits: 3000
กนอ.ไม่ประมาทสั่งทุกนิคมฯ 5 พื้นที่ 5 ติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด
แนวหน้า : นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ตอนนี้ มีฝนตกทุกภาคของประเทศไทยและมีฝนตกหนักในบางพื้นที่อย่างต่อเนื่องจนก่อเกิดอุทกภัยในบางส่วนของภาคกลางนั้น กนอ.ได้ติดตามสถานการณ์น้ำที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่อุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ กนอ. ได้กำหนดมาตรการป้องกันอุทกภัยพื้นที่นิคมฯ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอุทกภัย และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยสั่งการให้นิคมฯ ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนป้องกันอุทกภัยในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิคมฯ ในนพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งระบบเขื่อนป้องกันอุทกภัยของนิคมฯ บ้านหว้า (ไฮเทค), นิคมฯ บางปะอิน ได้ดำเนินการสร้างเสร็จสมบูรณ์ และนิคมฯ สหรัตนนคร อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ปัจจุบันความคืบหน้าการก่อสร้างคันดินดำเนินการไปแล้วที่ความสูงประมาณ 5 เมตร ทั้งนี้ จะใช้แนวถนนรอบพื้นที่นิคมฯ ความยาวประมาณ 32 กิโลเมตร เป็นแนวป้องกัน
นอกจากนี้ นิคมฯ ทุกแห่งได้จัดทำและทบทวนแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน : กรณีอุทกภัย โดยสรุปแนวทางการเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อม เช่น ขุดลอกและพร่องน้ำในลำระบายน้ำ จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำสำรอง และอุปกรณ์อื่นๆ จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเฝ้าระวังระดับน้ำโดยรอบพื้นที่ ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนป้องกันอุทกภัย ติดตามสถานการณ์และประสานงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งชี้แจงและสื่อสารกับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมอย่างสม่ำเสมอ
ในส่วนของ กนอ.เองได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ กนอ.ที่อาคารสำนักงานใหญ่ เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ และเป็นศูนย์กลางบัญชาการ โดยมีการติดตามข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อมูลเส้นทางพายุ และสภาพอากาศจากกรมอุตุวิทยา ข้อมูลสถานการณ์น้ำจากกรมชลประทาน ข้อมูลสถานการณ์น้ำทะเลหนุนจากกรมอุทกศาสตร์ ข้อมูลพื้นที่น้ำท่วมโดยแผนที่ดาวเทียมจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ข้อมูลสถานการณ์ทั่วไปจากสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร
"ตอนนี้ กนอ. มอบหมายให้สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังจุดวัดระดับน้ำโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมตลอดเวลาซึ่งโดยภาพรวมแล้วทุกแห่งยังอยู่ในภาวะปกติ ทั้งนี้ส่วนที่ได้สั่งให้มีการเฝ้าระวังนั้นอยู่ในพื้นที่ 5 ลุ่มน้ำ โดยที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงใน 4 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ลุ่มน้ำยม เจ้าพระยา ป่าสัก ท่าจีน ปราจีนบุรี ประกอบด้วยนิคมฯ 11 แห่ง ได้แก่ นิคมฯ พิจิตร สหรัตนนคร บ้านหว้ไฮเทค บางปะอิน แก่งคอย บางชัน ลาดกระบัง บางปู บาลพลี สมุทรสาคล และสินสาคร ส่วนอีก 1 ลุ่มน้ำ คือลุ่มน้ำบางปะกง ให้เฝ้าระวังใน นิคมฯ 3 แห่ง ได้แก่ นิคมฯ อมตะนคร เวลโกรว์ และทีเอฟดี”นายวีรพงศ์ กล่าว