- Details
- Category: เศรษฐกิจทั่วไป
- Published: Sunday, 20 March 2016 10:33
- Hits: 5457
ฉลอง 70 ปี ทรงครองราชย์ และ 50 ปี'ปลานิลพระราชทาน'เพื่อความมั่นคงทางอาหารกับเมนูปลาจาก 12 ร้านดัง
ภัตตาคาร/เชนร้านอาหารดัง 12 แบรนด์ พร้อมใจสร้างสรรค์เมนูพิเศษจากปลานิลจิตรลดา พันธุ์ปลาพระราชทาน ที่เป็นปลาเศรษฐกิจสำคัญของคนไทย ให้ลิ้มลองและร่วมกันเฉลิมฉลอง ‘ไตรปีติ”คือสามวาระมงคลของชาติ และในโอกาส 50 ปีปลานิลพระราชทาน ด้วย โครงการ '๑ จานจากใจ...มื้อปลาอิ่มใจ’ ผู้ที่สนใจสามารถชิมปลานิลแสนอร่อยกับหลากหลายเมนูสร้างสรรค์ได้ ณ ร้านอาหารที่ร่วมโครงการฯ เป็นเวลา 70 วัน ระหว่างวันที่ 17 มีนาคม – 25 พฤษภาคมนี้
ปี 2559 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 70 ปี สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษาและ การฉลอง 88 พรรษามหาราชา จึงเกิดเป็น “ไตรปีติ”
งานแถลงข่าวโครงการ'๑ จานจากใจ...มื้อปลาอิ่มใจ'จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ ห้อง ไอวอรี่ โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ ถนนพญาไท กรุงเทพมหานคร โดยมี ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ให้เกียรติเป็นประธานในงาน พร้อมด้วยวิทยากรรับเชิญ นายศุภวัฑฒ์ โกมลมาลย์ ผู้อำนวยการ
กองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้แทนชมรม “๑ จานจากใจ” ได้แก่ นางภัทรา ศิลาอ่อน ประธานกรรมการ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) นายชัยเทพ ภัทรพรไพศาล ผู้ก่อตั้ง Lee Café และร้านอาหารภัทรา รวมทั้งนายสันติ เศวตวิมล นักชิมชื่อดัง เจ้าของนามปากกา “แม่ช้อยนางรำ” และเครื่องหมายเปิบพิศดาร ผู้ก่อตั้งร้านอาหารแม่ช้อยดอยหลวง ขึ้นสนทนาให้รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการฯ พร้อมด้วยคุณนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย และคุณจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการสายงานด้านบริหารและสนับสนุนกลยุทธ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ให้เกียรติมาร่วมงาน
ในโอกาสนี้ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ได้แสดงความชื่นชมที่ภัตตาคารและเชนร้านอาหารดังของไทยทั้ง 12 แบรนด์ ที่จับมือกันทำกิจกรรมดี ๆ ร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นกิจกรรมที่จัดให้มีขึ้นในปี 2559 ซึ่งเป็นปีแห่งวาระมหามงคล “๓ ปิติ” ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 70 ปี และทรงเจริญพระชนมพรรษา 88 พรรษา และปีที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา “ทุกคนในที่นี้มาร่วมกันทำงานตามที่ถนัด ต่อยอดแนวพระราชดำริ เพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม จากเมื่อ 50 ปีก่อนปลานิลเป็นเพียงลูกปลาตัวเล็กๆ ที่พระราชทานมาให้คนไทย แต่วันนี้กลายเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศมีชีวิตที่ดีขึ้น สร้างทั้งรายได้และสุขภาพที่ดีแก่ประชาชน ปลานิลตัวเล็กๆ แต่มีความยิ่งใหญ่เหลือเกิน”
นายศุภวัฑฒ์ โกมลมาลย์ กล่าวว่า “ภายหลังจากที่สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตแห่งญี่ปุ่นเมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมาร ได้ทูลเกล้าฯ ถวายพันธุ์ปลาน้ำจืดตระกูลทิลาเปียจำนวน 50 ตัว แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปี พ.ศ.2508 ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล พระองค์ได้ทรงเลี้ยงลูกปลาเหล่านั้นไว้ในบ่ออนุบาลในพระตำหนักสวนจิตรลดาเพื่อขยายพันธุ์ ก่อนที่จะโปรดเกล้าฯ ให้กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำปลาดังกล่าวไปขยายพันธุ์ต่อและแจกจ่ายให้กับเกษตรกร รวมทั้งปล่อยสู่แหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีให้กับประชาชน พร้อมทั้งพระราชทานนามว่า ‘ปลานิล’ นับถึงปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่เลี้ยงปลานิลกว่า 400,000 ไร่ มีฟาร์มเลี้ยงปลานิลรวมกว่า 280,000 แห่ง สร้างผลผลิตรวมราว 200,000 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่านับ 10,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพและประสิทธิผลอย่างเป็นรูปธรรมจากการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
“พระราชประสงค์แรกเริ่มของพระองค์คืออยากให้ปลานิลเป็นแหล่งอาหารราคาไม่สูงสำหรับชาวบ้านที่ยากจน ปลานิลรุ่นแรกจะมีหัวโต ตัวเล็ก เนื้อน้อย แต่ต่อมาได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้เป็นปลานิลจิตรลดา 1 2 3 4 เมื่อมาถึงรุ่นที่ 4 ปลานิลจะหัวเล็กและมีเนื้อเยอะ มีคุณภาพที่ดีต่อการส่งออกเป็นอย่างมาก ข้อดีของปลานิลคือให้ลูกทุกๆ 3 เดือนตลอดปี ไม่ได้ออกลูกเฉพาะฤดูวางไข่”
นักชิมชื่อดัง นายสันติ เศวตวิมล ยืนยันถึงรสชาติและความอร่อยของปลานิลซึ่งได้มีโอกาสชิมเป็นครั้งแรกที่กว๊านพะเยาในปี พ.ศ. 2509 โดยที่ตอนนั้นปลานิลยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ภายหลังได้มีโอกาสเข้าร่วมทำข่าวมกุฎราชกุมารญี่ปุ่นเข้าทูลเกล้าฯ ถวายพันธุ์ปลานิลในปี พ.ศ. 2508 ตลอดจนข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานพันธุ์ปลานิลจิตรลดาแก่นายปรีดา กรรณสูต อธิบดีกรมประมงในขณะนั้น เพื่อขยายพันธุ์ แจกจ่ายให้เกษตรกรและปล่อยสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ในฐานะผู้สื่อข่าวสังกัดหนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย นับเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าและน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
นายชัยเทพ ภัทรพรไพศาล กล่าวในฐานะผู้แทน'ชมรม ๑ จานจากใจ'ว่า'เหล่าพันธมิตรภัตตาคารและร้านอาหาร รู้สึกเป็นเกียรติ อิ่มใจ และตื้นตันใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเทิดพระเกียรติ เฉลิมฉลอง ตลอดจนสานต่อแนวพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงริเริ่มไว้ ผู้ประกอบการร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการล้วนพบว่า ทั้งที่ปลานิลมีราคาไม่สูง แต่กลับอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการเนื้อปลาแน่น ละเอียด และยังสามารถนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารชั้นเลิศได้หลากหลายมากทั้งเมนูไทย จีน และฝรั่ง ผมอยากให้สาธารณชนได้รับรู้ว่า ปลานิลก็สามารถนำมาทำเป็นอาหารจานหรูได้เอร็ดอร่อย พวกเราทั้ง 12 ร้านได้ระดมพลังความคิดสร้างสรรค์พร้อมทั้งเตรียมเมนูปลาไว้ถึงกว่า 30 เมนูด้วยกันพร้อมแล้วที่จะเสิร์ฟตลอด 70 วัน นับจากวันที่ 17 มีนาคม ซึ่งตรงกับวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานปลานิลให้กับเกษตรกร เป็นต้นไป”
ภัตตาคารและเชนร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ '๑ จานจากใจ...มื้อปลาอิ่มใจ'ในครั้งนี้ได้แก่ Lee Café, Chester´s, เสวย, ภัทรา, แซบอีลี่, เลอ ปลาแดก, Shrimp Haus, Triplets Brasserie, ตะลิงปลิง, อินจัน สามพราน, JM Cuisine (เจ๊กเม้ง) และแม่ช้อยดอยหลวงโดยมีเมนูเด่น อาทิ ส้มตำปลานิลทูลเกล้าฯ, ห่อหมกปลานิล, ผัดพริกขิงปลานิลฟู, ปลานิลย่างเกลือ, ปลานิลซอสพะแนง, แกงหน่อตาลโตนดปลานิล, ขนมจีนน้ำยาปลานิล, ข้าวน้ำตกปลานิล, ปลานิลย่างซอสพริกกระเทียม, Salted Caramel Ice-cream with Chitralada Nil Biscuit และอีกหลากเมนูปลานิล
โครงการ ๑ จานจากใจ เกิดขึ้นจากความร่วมมือของผู้ประกอบการภัตตาคารและเชนร้านอาหารโดยความสนับสนุนของมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ กับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) โครงการฯ ริเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2555 ซึ่งผู้ประกอบการภัตตาคารและเชนร้านอาหารได้ร่วมกันสร้างสรรค์เมนูจากวัตถุดิบจากโครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เมนูปลานิลโดยโครงการ '๑ จานจากใจ...มื้อปลาอิ่มใจ'เปิดให้สาธารณชนลิ้มลอง ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม ถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 2559 สามารถติดตามข่าวสารหรือรายเอียดเพิ่มเติมโครงการฯ ได้ที่ www.facebook.com/makeadishmakeawish