- Details
- Category: เศรษฐกิจทั่วไป
- Published: Saturday, 06 June 2015 09:49
- Hits: 5276
เพิ่มหวย 3 ตัวหน้า งวด 1 สค. แก้ปัญหาเลขไม่สวยขายไม่ออก ชี้กล่องทิปทำได้-แต่ห้ามบังคับ ถูกร้องเรียนมีโทษเท่าขายแพง
เริ่ม 1 ส.ค.นี้ หวย 3 ตัวหน้า แก้ปัญหาสลากฯ เลขท้ายไม่สวยขายไม่ออก "บิ๊กแดง" ประธานกองสลากยันเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค เผยร่วมกับดีเอสไอ สรรพากร ศูนย์ต้านทุจริต ตรวจสอบผู้ค้ารายใหญ่ พบความผิดแล้วหลายราย จ่องัดกฎหมายฟอกเงินและสอบภาษีย้อนหลังเล่นงาน ด้านผอ.กองสลากชี้ตั้งกล่องรับทิปทำได้แต่ห้ามเรียกร้อง ไม่เช่นนั้นเข้าข่ายขายเกินราคา ส่วนผู้ค้าที่เมืองย่าโมระบุเป็นวิธีสื่อไปถึงรัฐบาลว่าราคาที่กำหนดไว้ผู้ค้าอยู่ไม่ได้
วันที่ 06 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8956 ข่าวสดรายวัน
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะประธานสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ระหว่างเข้าร่วมสัมมนาเรื่อง "บทบาทและหน้าที่กรรมการรัฐวิสาหกิจ" ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เป็นประธาน ถึงการแก้ไขปัญหาสลากฯ เลขไม่สวยขาย ไม่หมดว่า การประชุมคณะกรรมการสลากฯ ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ จะมีวาระพิจารณาอนุมัติให้มีการปรับเปลี่ยนรางวัลแบบเลขท้าย 3 ตัว จากเดิมที่มี 4 รางวัล จะปรับลดเหลือ 2 รางวัล และเพิ่มรางวัลเลข 3 ตัวหน้าแทน
"โดยกำหนดการจ่ายรางวัลไว้ตามเดิมที่ คู่ละ 4,000 บาท เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี การออกรางวัลแบบ 3 ตัวหน้า จะทำให้คนกระจายการซื้อมากขึ้น โดยคาดว่าจะใช้ได้เร็วที่สุดในงวดวันที่ 1 ส.ค.นี้ หรือหากไม่ทันจะพยายามดำเนินการให้ได้ก่อนงวดเดือนต.ค.นี้ ส่วนรางวัลเลขหน้า 2 ตัว ยังไม่มีความคิด จะทำ" รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว
พล.ต.อภิรัชต์ กล่าวว่า สำหรับการจัดสรรโควตา 48 ล้านฉบับ ล่าสุดได้รับการรายงานว่ามีผู้ไม่มารับสลากฯ กว่า 7,000-8,000 เล่ม ในส่วนนี้จะหารือว่าจะกระจายสลากฯ ไปจำหน่ายอย่างไร ที่ผ่านมามีการกระจายสลากไปที่ อ.บางสะพุง แล้วกว่า 10,000 เล่ม ส่วนที่เหลือต้องดูว่าจะจัดสรรอย่างไร มีทั้งแนวคิดที่จะจำหน่ายผ่านโครงการธงฟ้า โดยร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในราคาสลากฯ ใบละ 80 บาท แต่ไม่มีแนวคิดที่สำนักงานสลากฯ จะตั้งโต๊ะจำหน่ายสลากฯ เอง
"นอกจากนี้ ในการประชุมวันที่ 15 มิ.ย. จะหารือถึงผลการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ค้ารายใหญ่ ที่ตรวจจับก่อนหน้านี้ เป็นการดำเนินงานร่วมกับกรมสรรพากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์อำนวยการต่อต้านทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) ซึ่งขณะนี้ตรวจพบแล้วหลายราย โดยจะแถลงการณ์จับกุมผู้กระทำความผิดทั้งหมด มีความผิดตามกฎหมาย ฟอกเงิน และตรวจสอบภาษีย้อนหลัง" รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากพล.อ.ประยุทธ์กล่าวในงานสัมมนาเสร็จสิ้น ได้เดินลงมาทักทายผู้ร่วมงาน โดยมุ่งไปที่พล.ต.อภิรัชต์พร้อมกล่าวแซวว่า "ครั้งหน้าถ้าเลขทะเบียนรถออกอีก บอกผมด้วย จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน"
ด้านพล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า การออกรางวัลเลขหน้า 3 ตัว จะต้องหารือถึงรายละเอียด ซึ่งอาจจะไม่ทันงวดวันที่ 1 ส.ค. เนื่องจากกระบวนการจัดพิมพ์ดำเนินการไปแล้วล่วงหน้า แต่ต้องดำเนินการตามมติคณะกรรมการ และการจ่ายรางวัลคงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนการยกเลิกรางวัลแจ๊กพอต ในงวดวันที่ 1 ส.ค. ยังเป็นตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ สามารถดำเนินการได้ทันที
ขณะที่นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการ สลากฯ กล่าวว่า การเพิ่มรางวัล 3 ตัวหน้า จะเป็นการเพิ่มมูลค่าสลากฯ ที่ทำให้ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อได้หลากหลายขึ้น จากเดิมที่จะเลือกแต่เฉพาะเลขท้ายเท่านั้น ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาสลากเลขไม่สวย และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการมอมเมา เนื่องจากปัจจุบันสลากจัดพิมพ์อยู่ที่ 74 ล้านฉบับ ไม่ได้พิมพ์เพิ่มเติม แม้ว่าจะมีการกระจายรางวัลใหม่ก็ตาม
นายธนวรรธน์กล่าวถึงกรณีที่ผู้ค้ารายย่อยจัดตั้งกล่องรับเงินทิปจากผู้ซื้อว่า ผู้ค้าสามารถทำได้ ถือเป็นเทคนิคที่ผู้ขายดำเนินการ เช่น กลุ่มผู้ค้าคนพิการ สามารถรับน้ำใจจากผู้ซื้อช่วยเหลือ โดยสำนักงานสลากฯ ไม่ได้ห้าม หรือเข้าไปขัดขวาง แต่ผู้ขายจะต้องขายที่ 80 บาทเท่านั้น และห้ามเรียกร้องขอเงินทิปจากผู้ซื้อเด็ดขาด ซึ่งหากพบว่าผู้ขายเรียกเงินทิป ผู้ซื้อสามารถแจ้งดำเนินการได้ที่ โทร. 0-2345-1466 เพราะเข้าข่ายจำหน่ายสลากฯ เกินราคา และมีโทษปรับ 1 หมื่นบาท หรือจำคุก 1 เดือน เช่นเดียวกัน
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ และกรมสรรพากร จะร่วมตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของผู้ที่ได้โควตาสลากฯ ที่ปฏิบัติไม่ถูกหลักเกณฑ์ เช่น การนำไปรวมเล่ม ขายเกินราคา ซึ่งการตรวจสอบดังกล่าวจะครอบคลุมไปถึงธุรกรรมทางการเงินอื่น ไม่เฉพาะรายได้จากสลากฯ โดยยืนยันว่า สามารถตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินได้ทันทีและไม่ยาก โดยส่งเจ้าหน้าเข้าร่วมทีมเฉพาะกิจของสำนักงานสลากฯ ด้วย
สำหรับ บรรยากาศการจำหน่ายสลากฯ ในพื้นที่ต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ยังคงเงียบเหงามีผู้คนหาซื้อสลากฯ บางตา ทั้งที่ผู้ค้าจะจำหน่ายราคา 80 บาทตามที่รัฐบาลกำหนด โดยบริเวณถนนจอมพล หลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นแหล่งขายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่แห่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดนครราชสีมา บรรยากาศยังคงเป็นไปด้วยความเงียบเหงา แม่ค้าแผงลอตเตอรี่รายหนึ่งบริเวณดังกล่าว เปิดเผยว่า บรรยากาศเงียบเหงาเช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติช่วงเริ่มต้นงวด แต่จะมีความคึกคักอีกครั้ง ประมาณ 2-3 วัน ก่อนที่จะออกรางวัล
ส่วนกรณีที่มีผู้ค้าสลากฯ ในบางจังหวัด นำกล่องรับทิปมาตั้งไว้หน้าแผงนั้น คิดว่าน่าจะเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้รัฐบาลได้รับรู้ผ่านสื่อว่าการขายในราคาใบละ 80 บาท มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงครอบครัว ซึ่งสภาพความเป็นจริงทุกวันนี้ เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว ผู้ค้าสลากฯ แทบจะไม่เหลือกำไรเลย อย่างไรก็ตามผู้ค้าสลากฯ ใน จ.นครราชสีมา ยังไม่มีการเคลื่อนไหวหรือแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะต้องการรอดูสถานการณ์ช่วง 1-2 งวดนี้ก่อน ว่ารัฐบาลจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไรบ้าง
ด้านผู้ค้าสลากฯ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เลย เผยว่า ได้รับโควตาจำนวน 5 เล่ม ในราคาฉบับละ 70.40 บาท นำมาขาย 80 บาท ตามราคาที่กำหนดซึ่งได้กำไรเพียง 9 บาท มันก็อยู่ไม่ได้ เพราะมีค่าใช้จ่ายทั้งค่าเช่าที่ ค่ากินอยู่ และอื่นๆ ราคาควรจะอยู่ที่คู่ละ 90 บาท ผู้ค้าถึงจะอยู่กันได้ ถึงแม้จะเพิ่มสลากให้เป็นคนละ 7-10 เล่ม ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะแต่ละงวดจะขายไม่หมดผู้ค้าต้องแบกภาระตรงนี้ จะมีเฉพาะช่วงปีใหม่เท่านั้นที่สลากฯ จะขายได้หมดเกลี้ยง
ขณะที่ผู้ค้าอีกรายที่ตั้งแผงติดกันกล่าวถึงกรณีที่พ่อค้าเดินเร่ขายทำกล่องรับทิปจากผู้ซื้อว่า เรื่องนี้มันก็อยู่ที่ความพอใจของแต่ละคน แต่ก็มองดูเป็นการบีบบังคับผู้ซื้อเหมือนเดิม ส่วนตัวได้รับโควตามา 5 เล่ม ซื้อเพิ่มจากตลาดนัดลอตเตอรี่ อ.วังสะพุง มาอีกในราคาคู่ละ 73 บาท ถ้ามาขาย 80 บาทไม่คุ้ม ต้อง 90 บาทถึงจะอยู่ได้ เพราะต้องเผื่อต้นทุนไว้ในช่วงที่ขายสลากฯ ไม่หมดด้วย
วันเดียวกัน นายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอเมืองหนองคาย พร้อมร.อ.จำนง แสงกุดเรือ ทหารชุดรักษาความสงบจังหวัดหนองคาย นำเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบการจำหน่ายสลากฯ โดยสุ่มตรวจที่วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีผู้ค้าเร่วางขายสลากฯ นับสิบราย แต่พบว่ามีผู้ค้าเร่เหลือเพียง 2 รายเท่านั้น
ผู้พิการค้าเร่สลากฯ รายหนึ่ง บอกว่า เริ่มขายสลากฯ ในราคา 80 บาทตามที่รัฐบาลกำหนด โดยไปรับมาจาก อ.วังสะพุง จำนวน 3 เล่ม หรือ 300 ฉบับ เพราะไม่ได้โควตาในจังหวัดหนองคาย เมื่อก่อนขายสลากใบละ 110-120 บาท ได้กำไรใบละ 12 บาท ตอนนี้เหลือกำไรเพียง 4 บาทเท่านั้น เพราะยี่ปั๊วหักไปแล้วใบละ 5.60 บาท แม้ว่าผู้ซื้อจะพอใจในราคาขาย 80 บาท และซื้อมากขึ้น แต่ไม่ช่วยให้ได้กำไรเหมือนเดิม หากเป็นเช่นนี้ต้องดูต่อไปว่างวดหน้ายังจะพอใช้จ่ายในครอบครัวหรือไม่
ด้านนายโสภณ กล่าวว่า ผู้ค้าเร่ในพื้นที่ขายในราคา 80 บาทตามที่รัฐบาลกำหนด แต่ปัญหาคือการรับสลากฯ จากต่างจังหวัดมาขายในพื้นที่ ซึ่งผิดจากระเบียบที่วางไว้ในการที่เป็น ผู้ค้ารายย่อยต้องรับจากตัวแทนในจังหวัดนั้นๆ ซึ่ง จ.หนองคาย มีผู้ทำสัญญาเป็นตัวแทนสลากฯ 110 ราย ในระยะสัญญา 6 เดือน ได้รับการจัดสรรโควตารายละ 10 เล่ม หรือ 1,100 เล่ม เป็นเล่มเล็ก 50 ฉบับ และเล่มใหญ่ 100 ฉบับ แล้วให้ตัวแทนไปกระจายสลากฯกับผู้ค้ารายย่อยในสัดส่วนคนละ 500 ฉบับ ห้ามขายส่งให้กับผู้อื่น เพื่อแก้ปัญหายี่ปั๊ว ซาปั๊ว แต่ยังพบมีปัญหาดังกล่าวขึ้นอีก
ส่วนร.อ.จำนง กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับเรื่องร้องเรียนผู้ค้าเร่ ว่าไม่ได้รับการจัดสรรโควตาทั้งที่มีการขึ้นทะเบียนไว้แล้ว อยากให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ จึงได้ร่วมกับอำเภอเมืองหนองคายมาตรวจสอบและทราบปัญหา เรื่องนี้จะรายงานให้ ผวจ.หนองคายทราบเพื่อพิจารณาแก้ไขต่อไป
ส่วนที่ อ.เมือง จ.พัทลุง บรรดาผู้ค้าต่างปิดป้ายขึ้นราคาสลากฯ ใบละ 80 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล ขณะที่ผู้ซื้อสลากฯเริ่มทยอยซื้อหาเลขที่ต้องการกันอย่างคึกคักและผู้ซื้อสลากฯส่วนใหญ่ พอใจในราคาดังกล่าว
ด้านพล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล ผบก.ภ.จว.พัทลุง เผยว่า ขณะนี้ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.เข้มงวดตรวจร้านค้าสลากฯ ให้จำหน่ายในราคาที่ปรากฏอยู่บนสลากฯ เท่านั้น หากจำหน่ายเกินราคาและได้รับการร้องเรียนจะดำเนินคดีทันที พร้อมกันนั้นยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ เฝ้าสังเกตการณ์ร้านค้าที่จำหน่ายสลากฯ ทุกร้านด้วย