- Details
- Category: เศรษฐกิจทั่วไป
- Published: Thursday, 04 June 2015 16:52
- Hits: 5561
ร้านอาหารวิกฤติเจ๊งอื้อปรับตัวรับทัวร์จีน-แข่งหั่นราคา
ไทยโพสต์ *ส.ภัตตาคารไทย ชี้ร้านอาหารเริ่มทยอยเปลี่ยนมือ หลังแบกรับภาระขาดทุนไม่ไหว เร่งแก้เกมปรับตัวหันจับทัวร์จีนตามการขยายตัวของตลาด
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจร้านอา หารของประเทศไทยช่วงที่ผ่านมา พบว่ายังคงมีการประคับประคองให้ธุรกิจอยู่รอด เนื่องจากผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย เห็นได้จากอัตราการเข้าใช้บริการร้านอาหารที่ลดลงเหลือเพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์ จากปกติจะมีการรับประทานอาหารนอกบ้านกันราว 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ขณะเดียวกันในการสั่งอาหารแต่ละครั้ง ผู้บริโภคก็เลือกที่จะลดปริมาณรายการอาหารที่จะสั่ง เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น
จากปัจจัยข้างต้นทำให้ ธุรกิจร้านอาหารมีความเคลื่อน ไหวในการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ เนื่องจากแบกรับภาระขาดทุนไม่ไหว โดยสถานที่ของร้านอาจยังคงตั้งอยู่ในบริเวณเดิม แต่มีการเปลี่ยนชื่อร้านหรือประเภทของอาหารในการให้บริการ รวมถึงยังมีผู้ประกอบการร้านอาหารบางรายที่อยู่ในบริเวณกรุงเทพฯ และตามแหล่งท่องเที่ยว เลือกจะปรับกลยุทธ์หันมาจับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้น เปิดรับลูกค้าทัวร์ที่มาจากประเทศจีน เนื่องจากการขยายตัวของตลาดจีนที่เพิ่มสูงขึ้น จึงมองว่าเป็นโอกาสในการสร้างยอดขายให้กับร้านอาหารของตนเอง
"ธุรกิจร้านอาหารถือเป็นตัวชี้วัดสภาพเศรษฐกิจได้ทางหนึ่ง ซึ่งในตอนนี้ผู้ประกอบการคงทำได้เพียงประคองตัว ด้วยการลดต้นทุนด้านต่างๆ ควบคู่ไปกับการทำโปรโมชั่น เพื่อทำให้ธุรกิจยังสามารถอยู่รอดไปจนช่วงที่เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ซึ่งร้านอาหารจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สามารถกลับมาเติบโตได้เร็ว หากเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวในทิศทางที่ดี" นางฐนิวรรณกล่าว
สำหรับ ธุรกิจร้านอาหารขนาดกลางยังเป็นกลุ่มที่สามารถดำเนินธุรกิจได้ดีระดับหนึ่ง เนื่องจากไม่มีต้นทุนสูงเท่าไหร่นัก เป็นธุรกิจที่นำคนในครอบครัวมาบริหารและดำเนินการ ขณะเดียวกันก็ใช้พื้นที่ห้องแถวที่อาจเป็นที่พักอาศัยของตนเองมาเป็นทำเลในการเปิดร้านอาหารไม่ต้องเช่าพื้นที่ ในขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่หากประสบปัญหาระยะยาวหรือต้องแบกรับภาระไป 3-4 เดือน ก็คงต้องปิดกิจการไป เพราะมีค่าใช้จ่ายหลายๆ ด้าน และร้านค้าแผงลอยขนาดเล็ก ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ปิดกิจการได้เร็ว หากขาดทุนเป็นระยะสัก 2-3 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ประกอบการก็คาดหวังว่าครึ่งปีที่เหลือ สภาพเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นบ้าง เพื่อให้ธุรกิจต่างๆ ยังคงอยู่รอด โดยตอนนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็พยายามส่งเสริมอาหารไทย ซึ่งก็อาจจะทำให้ภาพรวมดีขึ้นบ้าง
นอกจากนี้ร้านอาหารยังต้องจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหารเชนใหญ่ๆ ทั้งไทยและต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นการจัดชุดเมนูพิเศษ จัดหาภาชนะใหม่ๆ ซึ่งกระตุ้นการจับจ่ายผู้บริโภคได้ระดับหนึ่ง รวมถึงใช้หากลยุทธ์เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคอยู่ที่ 300-500 บาทต่อหัว สำหรับร้านอาหารเชนต่างๆ และที่หัวละ 200 บาท สำหรับร้านอาหารทั่วไปตามตึกแถว เพราะไม่สามารถเพิ่มจำนวนคนเข้ามาใช้บริการได้
การแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารปัจจุบันถือว่าสูงมาก ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดเสรีในการเปิดร้านอาหารและภัตตาคาร โดยเฉพาะการเข้ามาของเชนร้านอาหารขนาดใหญ่จากต่างประเทศ ที่มีความพร้อมทางด้านการบริหารจัดการด้านต่างๆ รวมถึงแหล่งเงินทุนในการขยายสาขาจากบริษัทแม่ในต่างประเทศ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการร้านอาหารและภัตตาคารไทย.
