- Details
- Category: ไฟฟ้า ลม โซลาร์
- Published: Saturday, 22 January 2022 19:30
- Hits: 27802
แผนขับเคลื่อนสมาร์ทกริด ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะเพื่อพัฒนาระบบไฟฟ้าไทย
การเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยมาสู่ระบบดิจิทัล (Digital Transformation) ย่อมมานำซึ่งการพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าในด้านต่างๆ รวมถึงในภาคพลังงานด้วย มีการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ถ่านหิน หรือ ก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องเข้ามาบูรณาการใช้ให้เกิดการบริหารจัดการและการใช้พลังงานเหล่านั้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ซึ่งภายใต้กรอบดังกล่าว ส่งผลให้ระบบโครงข่ายไฟฟ้าในอนาคตจะมีความซับซ้อนทั้งทางด้านกลไก และการดำเนินการกว่าเดิมมากยิ่งแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่ภาคพลังงานจะต้องอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลในการควบคุม กำกับ และดูแลระบบ เพื่อให้เกิดการสอดรับกับปัจจัยต่างๆ ทั้งทางด้านเสถียรภาพ ความน่าเชื่อถือและความเพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า
ในปี 2564 แผนการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสมาร์ทกริดของประเทศไทย ในระยะสั้น พ.ศ. 2560-2564 ได้สิ้นสุดลง สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) จึงได้จัดทำแผนการ ขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสมาร์ทกริดของประเทศไทย ระยะปานกลาง พ.ศ. 2565-2574 เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และการจัดการทรัพยากรในระบบจำหน่ายไฟฟ้า ที่จำเป็น รองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้ายุคใหม่ อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
พร้อมทั้งการเตรียมความพร้อมต่างๆ และนำร่องการจัดการแหล่งพลังงาน แบบกระจายศูนย์ (Distributed energy resources; DER) ในรูปแบบเชิงพาณิชย์ รองรับการเปลี่ยนผ่าน เทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่เริ่มส่งผลต่อการบริหารจัดการระบบไฟฟ้า เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายด้านสมาร์ทกริดของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม
แผนการขับเคลื่อนฯ ระยะปานกลางฉบับนี้ มีการกำหนดเป้าหมายสำคัญในระยะมากกว่า 10 ปี ซึ่งจะเป็นแผนขับเคลื่อนด้านสมาร์ทกริด ตามกรอบแผนแม่บทการพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะของประเทศไทย พ.ศ. 2558 – 2579 โดยจะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และการจัดการทรัพยากรในระบบจำหน่ายไฟฟ้าที่จำเป็นรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้ายุคใหม่อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถมุ่งไปสู่พลังงานสะอาด และลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
รวมถึงเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) ที่ส่งผลให้ต้องมีการพัฒนาระบบไฟฟ้าให้มีความยืดหยุ่นรองรับการเพิ่มขึ้นของพลังงานหมุนเวียนให้ได้ตามเป้าหมายแผนพลังงานชาติ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการรักษาสมดุลไฟฟ้าประเทศ บริหารความต้องการช่วงไฟฟ้าพีคให้มีประสิทธิภาพ โดยแบ่งออกเป็น 5 เสาหลัก และแผนอำนวยการสนับสนุน ประกอบด้วย
- การตอบสนองด้านโหลดและระบบบริหารจัดการพลังงาน (DR & EMS)
- การพยากรณ์ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานหมุนเวียน (RE Forecast) :
- ระบบไมโครกริดตและโปรซูเมอร์ (Microgrid & Prosumer)
- ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS)
- การบูรณาการยานยนต์ไฟฟ้า (EV Integration)
สำหรับ ประโยชน์ของการจัดทำแผนการขับเคลื่อนฯ ระยะปานกลาง ในมิติของความสมดุลด้านพลังงาน Energy Trilemma) มีความสอดคล้องกับหลักการเสริมสร้างความยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ของประเทศ 3 ด้าน ได้แก่ ความมั่นคง ด้านความมั่งคั่ง และด้านความยั่งยืน ดังนี้
ด้านความมั่นคง : เกิดความมั่นคงทางพลังงานจากการผลิตและใช้พลังงานภายในประเทศ และการใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานแบบกระจายศูนย์ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับ ระบบไฟฟ้า
ด้านความมั่งคั่ง : ต้นทุนค่าไฟฟ้าโดยรวมของประเทศลดลง การหลีกเลี่ยงการลงทุน ที่ไม่จำเป็น ภาคผู้ใช้ไฟฟ้ามีโอกาสลดต้นทุนค่าไฟฟ้าของตนเองและเกิดการสร้างรายได้ รวมถึงการเพิ่มขีด ความสามารถในการแข่งขัน ทั้งด้านการส่งออกและการลงทุนต่างๆ ในประเทศ
ด้านความยั่งยืน : สามารถรองรับพลังงานหมุนเวียนในปริมาณสูง และสนับสนุนการลด การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาด
ดังนั้น การจัดทำแผนการขับเคลื่อนฯ ระยะปานกลาง จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาและลงทุนระบบไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับระบบโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ สามารถรองรับการเพิ่มขึ้นของพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานแบบกระจายศูนย์ (DERS) ประเภทต่างๆ ที่จะเติบโตตามแนวโน้มของโลก ร่วมกับระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถมุ่งไปสู่พลังงานสะอาดและลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2065-2070 ตามกรอบแผนพลังงานชาติได้อย่างแน่นอน