- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 11 January 2018 11:59
- Hits: 1699
ราคาน้ำมันดิบปรับสูงสุดในรอบ 3 ปี จากภาวะตลาดตึงตัว
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 โดยมีปัจจัยหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกและรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดคาดการณ์อุปสงค์ยังคงเติบโตมากกว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก
+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) ประกาศปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 11.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 416.6 ล้านบาร์เรล โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ อาจปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ติดต่อกัน
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 10.04 ล้านบาร์เรลต่อวันโดยเฉลี่ยในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) มีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยมีอุปสงค์จากภูมิภาคตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดี ปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินจากจีนยังคงอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวน้อยลงจากราคาน้ำมันดิบดูไบ จากภาวะตลาดที่ซบเซา โดยอุปสงค์และอุปทานค่อนข้างคงตัว ในขณะที่การส่งออกน้ำมันไปยังภูมิภาคตะวันตกยังคงไม่สดใส
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 59-64 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 66-71 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาสถานการณ์การประท้วงที่ประเทศอิหร่าน หลังประชาชนไม่พอใจกับการทำงานของรัฐบาล เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ และการปกครองของประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี และเหล่าผู้นำทางศาสนา ซึ่งเหตุการณ์นี้นำมาสู่การเข้าจับกุมผู้ประท้วงจำนวนหนึ่ง สร้างความไม่พอให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยทางรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาแถลงการณ์ประณามเหตุจับกุมดังกล่าวและสนับสนุนผู้ประท้วงชาวอิหร่านในการเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐาน และต่อต้านคอร์รัปชัน ทำให้หลายคนกังวลว่าเหตุการณ์นี้อาจนำไปสู่การคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน การประท้วงไม่ได้กระทบต่อการผลิต และการส่งออกน้ำมันแต่อย่างใด
ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากสหราชอาณาจักร และลิเบียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forties Pipeline System กำลังการขนส่ง 450,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาดำเนินการตามปกติ หลังพบรอยร้าว และต้องปิดซ่อมบำรุงตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ท่อขนส่งน้ำมันดิบในลิเบียที่ขนส่งน้ำมันดิบจากแหล่งผลิตน้ำมันดิบของบริษัท Waha Oil ไปยังท่าเรือ Es Sider สามารถกลับมาดำเนินการอีกครั้งเช่นกัน หลังจำเป็นต้องลดกำลังการขนส่งลงราว 70,000-100,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากถูกโจมตีโดยผู้ก่อความไม่สงบภายในประเทศ