- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 09 January 2018 19:53
- Hits: 8778
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มเล็กน้อย จากการประท้วงในประเทศอิหร่าน
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมีปัจจัยหนุนจากความตึงเครียดทางการเมืองในภูมิภาคตะวันออกกลาง ทั้งการประท้วงที่ยังคงดำเนินอยู่ในประเทศอิหร่าน และการจับกุมเจ้าชาย 11 พระองค์ของประเทศซาอุดิอาระเบียที่ออกมาประท้วงในสัปดาห์ที่ผ่านมาเรื่องการตัดงบค่าใช้จ่าย
+ ผู้บริหารระดับสูงของผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปกยืนยันการปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ เพื่อให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทั่วโลกกลับมาสู่ระดับสมดุล โดยตกลงที่จะไม่เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในกรณีที่อุปทานหยุดชะงักในระยะสั้น แต่ยังคงติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิหร่านและปัญหาเศรษฐกิจของประเทศเวเนซุเอลาต่อไป
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จะแตะระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับที่คุ้มค่าต่อการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) โดยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9.78 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ก่อนหน้า แตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในประเทศญี่ปุ่นและซาอุดิอาระเบีย อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินยังคงได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์จากสหรัฐฯ ที่เบาบางในช่วงฤดูหนาว
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงค์โปร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และยังไม่คุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ในการส่งออกน้ำมันไปยังภูมิภาคตะวันตก
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 59-64 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 66-71 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่่น่าจับตามอง
จับตาสถานการณ์การประท้วงที่ประเทศอิหร่าน หลังประชาชนไม่พอใจกับการทำงานของรัฐบาล เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ และการปกครองของประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี และเหล่าผู้นำทางศาสนา ซึ่งเหตุการณ์นี้นำมาสู่การเข้าจับกุมผู้ประท้วงจำนวนหนึ่ง สร้างความไม่พอให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยทางรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาแถลงการณ์ประณามเหตุจับกุมดังกล่าวและสนับสนุนผู้ประท้วงชาวอิหร่านในการเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐาน และต่อต้านคอร์รัปชัน ทำให้หลายคนกังวลว่าเหตุการณ์นี้อาจนำไปสู่การคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน การประท้วงไม่ได้กระทบต่อการผลิต และการส่งออกน้ำมันแต่อย่างใด
ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากสหราชอาณาจักร และลิเบียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forties Pipeline System กำลังการขนส่ง 450,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาดำเนินการตามปกติ หลังพบรอยร้าว และต้องปิดซ่อมบำรุงตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ท่อขนส่งน้ำมันดิบในลิเบียที่ขนส่งน้ำมันดิบจากแหล่งผลิตน้ำมันดิบของบริษัท Waha Oil ไปยังท่าเรือ Es Sider สามารถกลับมาดำเนินการอีกครั้งเช่นกัน หลังจำเป็นต้องลดกำลังการขนส่งลงราว 70,000-100,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากถูกโจมตีโดยผู้ก่อความไม่สงบภายในประเทศ