- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 01 September 2014 14:44
- Hits: 2934
ไทยออยล์คาด ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 92 - 98 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 100-105 เหรียญฯ
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (1 – 5 ก.ย. 57)
ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิม โดยได้รับแรงหนุนจากทิศทางการเพิ่มมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนจากทางธนาคารกลางสหภาพยุโรป (อีซีบี) รวมถึงสถานการณ์ระหว่างยูเครนและรัสเซียที่ยังมีความไม่แน่นอน นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับลดอีกเล็กน้อย ก่อนที่ฤดูกาลท่องเที่ยวหน้าร้อนจะสิ้นสุดลงในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม อุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดยังคงกดดันราคาอยู่อย่างต่อเนื่อง หลังสหรัฐฯ สามารถผลิตน้ำมันดิบได้สูงสุดในรอบ 28 ปี ขณะที่ลิเบียก็มีแนวโน้มผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
จับตาการประชุมบอร์ดอีซีบี และการประกาศอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ของอีซีบี ในวันที่ 4 ก.ย. นี้ ซึ่งล่าสุดนายมาริโอ้ ดรากี้ ประธานอีซีบีประกาศว่า อีซีบีพร้อมจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนให้ฟื้นตัว หลังค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน พร้อมติดตามการประกาศจีดีพีไตรมาส 2/57 ของยุโรป ในวันที่ 5 ก.ย. นี้
ติดตามสถานการณ์ระหว่างยูเครนและรัสเซีย ที่ยังไม่แน่นอน ซึ่งจะกระทบต่อราคาน้ำมันโลก ล่าสุดทางยูเครนได้ตกลงริเริ่มแผนหยุดยิงกับกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซีย ในบริเวณตะวันออกของประเทศแล้ว แต่อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีเปโร โปโรเซนโกของยูเครน ยังคงตั้งข้อสงสัยว่ารัสเซียให้การสนับสนุนความรุนแรงที่เกิดขึ้นในยูเครนตะวันออก
จับตาปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ภายหลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) รายงานว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในสัปดาห์ก่อนหน้า ปรับตัวลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากกำลังการกลั่นของโรงกลั่นในประเทศแตะระดับสูงถึง 93.5% อย่างไรก็ดีกำลังการกลั่นของสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับลดลงหลังสิ้นสุดฤดูกาลท่องเที่ยวในสัปดาห์หน้า
การผลิตและส่งออกน้ำมันดิบลิเบียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะยังมีเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศ โดยล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าจากช่วง 2-3 เดือนที่แล้ว มาอยู่ที่ระดับ 665,000 บาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางด้านสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 8.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดในรอบ 28 ปี ซึ่งสูงเกือบร้อยละ 10 ของความต้องการของโลก ส่งผลให้สหรัฐฯ ลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบมาอยู่ที่ 7.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำสุดในรอบ 19 ปี ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิต-บริการ ยอดขายสินค้าคงทน การใช้จ่ายภาคการก่อสร้าง ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน การจ้างงานภาคเอกชน-นอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานสหรัฐฯ รวมถึง ดัชนีภาคการผลิต-บริการ ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดขายปลีกยุโรป และดัชนีภาคการบริการจีน
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (25 – 29 ส.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.31 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 95.96 เหรียญฯ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 0.90 เหรียญฯ ปิดที่ 103.19 เหรียญฯ ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันมาเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 100 เหรียญฯ
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ปรับเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า อันเป็นผลมาจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงมากกว่าคาด และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดี กอรปกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความตึงเครียดในลิเบียและยูเครน อย่างไรก็ดีราคาน้ำมันดิบไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบที่ล้นตลาดบริเวณทะเลเหนือและแอฟริกา อีกทั้งตลาดยังกังวลถึงภาวะเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปที่ยังคงซบเซา