- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 02 January 2018 23:50
- Hits: 10055
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันดิบลดลง
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 22 ธ.ค. 60 ปรับลดลงสู่ระดับ 9.75 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 9.79 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในสัปดาห์ก่อนหน้า นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ อาจปรับลดลงมากกว่านี้ เนื่องจากอากาศที่หนาวจัดอาจส่งผลกระทบต่อการผลิต
+ EIA รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 22 ธ.ค. 60 ปรับลดลงราว 4.6 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า สู่ระดับ 491.3 ล้านบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นเดินหน้ากลั่นในอัตราสูงอย่างต่อเนื่อง
+ รัฐบาลจีนประกาศโควต้าการนำเข้าน้ำมันดิบครั้งที่ 1 ของปี 2561 โดยอนุญาตให้นำเข้าน้ำมันดิบราว 121.32 ล้านตัน สำหรับ 44 บริษัท นอกจากนี้ ได้มีการคาดการณ์ว่าปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในปี 61มีแนวโน้มแตะระดับสูงสุดในประวัติการณ์ เนื่องจากมีโรงกลั่นเปิดใหม่ และโรงกลั่นน้ำมันอิสระได้รับโควต้านำเข้าเพิ่มขึ้น
+/- อุปทานน้ำมันดิบของลิเบียปรับลดลงราว 70,000-100,000 บาร์เรลต่อวัน หลังเกิดเหตุการณ์วางระเบิดท่อขนส่งน้ำมันดิบที่เชื่อมต่อไปยังท่าเรือ Es Sider อย่างไรก็ตาม จะมีการซ่อมแซมท่อขนส่งดังกล่าวในสุดสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 22 ธ.ค. 60 ปรับตัวสูงขึ้นราว 591,000 บาร์เรล เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากความต้องการซื้อที่ทรงตัวจากศรีลังกา อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลคาดว่าจะถูกกดดันจากปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 57 - 62 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 64 - 69 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการปิดซ่อมบำรุงท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forties ที่ขนส่งน้ำมันดิบได้ถึง 450,000 บาร์เรลต่อวัน หลังถูกปิดซ่อมบำรุงในวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากตรวจพบรอยร้าวของท่อในละแวกชายฝั่งของเมือง Aberdeen โดย Ineos ผู้ดำเนินการท่อขนส่งเปิดเผยว่าท่อขนส่งดังกล่าวจะกลับมาดำเนินการได้ในช่วงต้นเดือน ม.ค
การร่วมมือของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกที่มีเป้าหมายจะลดปริมาณน้ำมันคงคลังของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (OECD Oil Stocks) สู่ระดับค่าเฉลี่ย 5 ปี โดยตั้งเป้าหมายจะลดกำลังการผลิตที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนสิ้นปี 2561 ซึ่งความร่วมมือยังคงอยู่ในระดับที่สูง นอกจากนี้ ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียกล่าวว่าจะพิจารณาทยอยปรับขึ้นปริมาณการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตสิ้นสุดลง