- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 22 December 2017 18:53
- Hits: 8411
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่ม หลังผู้ผลิตทั้งในและนอกโอเปกยังคงเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังกลุ่มผู้ผลิตยังคงเดินหน้าปรับลดปริมาณการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดย Reuters ได้ออกมาเผยว่ากลุ่มโอเปกได้เริ่มดำเนินการวางแผนกลยุทธ์ที่จะนำให้ตลาดน้ำมันดิบเดินหน้าอย่างยั่งยืน หลังข้อตกลงลดกำลังการผลิตจะยุติลงในปลายปีหน้า นอกจากนี้ ผู้ผลิตกลุ่มโอเปกยังเผยว่ากลยุทธ์นี้จะเป็นการทยอยเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นสวนทางกับตลาดที่คาดว่าผู้ผลิตทั้งสองกลุ่มจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นสู่ระดับปกติทันทีหลังข้อตกลงยุติลง
+/- ท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forties ยังคงปิดซ่อมบำรุง หลังพบรอยร้าวในระแวกชายฝั่งทะเลเหนือในวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งท่อดังกล่าวมีกำลังการขนส่งน้ำมันดิบที่ปริมาณ 450,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม บริษัท Ineos ได้เผยว่าการซ่อมบำรุงท่อขนส่งน้ำมันดิบจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์แรกของเดือนหน้า
- ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกำลังการผลิตของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบประวัติการณ์และคาดจะแตะระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับกำลังการผลิตของซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบสองรายใหญ่ของโลก
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจาก ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 18.2 ล้านบาร์เรล ใน 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังแรงซื้อเบาบางลงและการส่งออกจากเอเซียไปยุโรปปรับลดลง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ที่ 8.5 ล้านบาร์เรล
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 55-60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 61-66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
กำลังการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค. ขยับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มการผลิตอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 9 นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับสูงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้สหรัฐฯ เพิ่มการขุดเจาะน้ำดิบขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การร่วมมือของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกที่มีเป้าหมายจะลดปริมาณน้ำมันคงคลังของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (OECD oil stocks) สู่ระดับค่าเฉลี่ย 5 ปี โดยตั้งเป้าหมายจะลดกำลังการผลิตที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนสิ้นปี 2561 ซึ่งความร่วมมือยังคงอยู่ในระดับที่ดี หลังรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของคูเวตเผยว่าอัตราความร่วมมือของทั้งผู้ผลิตทั้งสองเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 122 ในเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบีย Khalid al-Falih ได้ออกมากล่าวว่าการสรุปยุทธวิธีหลังการลดกำลังการผลิตน้ำมันได้ยุติลงในสิ้นปีหน้านั้นยังเป็นเรื่องที่สรุปตอนนี้ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อตลาดน้ำมันดิบกลับสู่สมดุล กลุ่มผู้ผลิตจะต้องทยอยเพิ่มการผลิตเพื่อให้ตลาดมุ่งหน้าอย่างยั่งยืน
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน โดยในสัปดาห์ล่าสุด ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ระดับ 436.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงกว่า 6.5 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า หลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มกำลังการกลั่นสูงขึ้นถึงร้อยละ 94.1 ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมา