- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 20 December 2017 16:41
- Hits: 1898
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังได้รับแรงหนุนจากการปิดท่อขนส่งน้ำมัน
+/- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากท่อขนส่งน้ำมันดิบจากทะเลเหนือที่ยังคงปิดซ่อมบำรุง และการประท้วงในไนจีเรีย ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวลดลง จากความกังวลในเรื่องของอุปทานน้ำมันที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ
+ ราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงหนุนจากการปิดดำเนินการของท่อขนส่งน้ำมันดิบจากทะเลเหนือ ที่มีกำลังการขนส่งปริมาณ 450,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมาโดยมีแนวโน้มว่าท่อขนส่งข้างต้น จะปิดดำเนินการเป็นระยะเวลา 2-4 สัปดาห์
+/- สหภาพแรงงานหลักในภาคพลังงานของไนจีเรีย ก่อเหตุประท้วง เพื่อต่อต้านการไล่ออกกลุ่มแรงงานที่เข้าร่วมกับทางสหภาพ อย่างไรก็ตาม การประท้วงได้เสร็จสิ้นลงในวันเดียวกัน เนื่องจากบริษัทน้ำมันและก๊าซกลับมาจ้างงานผู้ที่โดนไล่ออกอีกครั้ง
- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปทานน้ำมันดิบจะยังคงล้นตลาดที่ราว 200,000 บาร์เรลต่อวันในครึ่งปีแรกของปี 2561 ก่อนที่จะกลับมาขาดดุลในช่วงครึ่งปีหลังราว 200,000 บาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันเบนซิน ยังคงได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อจากอินโดนีเซียที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม แรงซื้อจากเวียดนามยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 54-59 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 60-65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน จากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำหลังท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone กำลังการขนส่งราว 590,000 บาร์เรลต่อวัน ยังไม่สามารถกลับมาดำเนินการได้เต็มกำลังการขนส่ง นอกจากนี้โรงกลั่นน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ยังคงกำลังการผลิตในระดับสูงต่อเนื่อง โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ธ.ค. ปรับลดลง 5.1 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ประมาณ 443 ล้านบาร์เรล
จับตาสถานการณ์การปิดซ่อมบำรุงท่อขนส่งน้ำมันดิบในทะเลเหนือว่าจะสามารถกลับมาดำเนินการในเร็วนี้ได้หรือไม่ หลังพบรอยร้าวที่ท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forties ส่งผลให้ต้องมีการหยุดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันดิบซึ่งมีกำลังการขนส่งอยู่ที่ 450,000 บาร์เรลต่อวัน โดยทันทีและมีการลดกำลังการผลิตลง โดยบริษัท Ineos ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันดิบดังกล่าวคาดจะใช้ระยะเวลาหลายสัปดาห์ในการซ่อมแซมท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forties
ผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกยังคงเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตลงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี 2561 และจากการประมาณการของโอเปก ตลาดน้ำมันดิบจะเข้าสู่ภาวะขาดดุลที่ราว 700,000 บาร์เรลต่อวันในปีหน้า โดยล่าสุดในเดือน ม.ค. ซาอุดิอาระเบียปรับลดปริมาณการส่งออกลง 100,000 บาร์เรลต่อวันจากเดือนก่อนหน้าไปยังตลาดเอเชีย ขณะที่คงปริมาณการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และยุโรปในระดับเดิม นอกจากนี้ ผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกปรับเพิ่มความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 121 จากเดือน ต.ค. ที่ร้อยละ 100