WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

OIL50ราคาน้ำมันดิบปรับลด จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังและปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ

  -ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อ เนื่องจากปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน

  - นอกจากนี้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 9.78 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยคาดการณ์ว่าในปี 2561 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 780,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 10.02 บาร์เรลต่อวัน

  + อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบที่อาจตึงตัว หลังท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forties ในอังกฤษ ซึ่งเป็นท่อขนาดใหญ่ที่มีกำลังการขนส่ง 450,000 บาร์เรลต่อวันยังคงหยุดทำการขนส่ง หลังพบรอยรั่วตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา

  + EIA รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 5.1 ล้านบาร์เรล สิ้นสุด ณ วันที่ 8 ธ.ค. มาอยู่ที่ 443 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2558 โดยได้รับผลกระทบจากท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone ที่รั่วไหลไปในช่วงก่อนหน้า

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำมันเบนซินที่ลดลงจากท่อส่งน้ำมัน Forties และเหตุโรงกลั่น IOC ไฟไหม้ช่วยสนับสนุนตลาด

  ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลจากทางฝั่งยุโรป และแอฟริกาเหนือ

 

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

   ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 55-60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

   ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 62-66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

 

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบทรงตัวในระดับเหนือ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยการปรับเพิ่มขึ้นหลักๆ มาจากการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale oil) ซึ่งคาดการณ์ในเดือนธ.ค. 60 ปริมาณการผลิตจะปรับเพิ่มขึ้นราว 80,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา สู่ระดับ 6.174 ล้านบาร์เรลต่อวัน และในสัปดาห์ล่าสุด ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้นราว 25,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับในสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9.71 ล้านบาร์เรลต่อวัน

  จับตาการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินของท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone กำลังการขนส่งราว 590,0000 บาร์เรลต่อวัน ว่าจะกลับมาดำเนินการตามปกติเร็วๆ นี้หรือไม่ หลังท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone ต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว เนื่องจากตรวจพบการรั่วไหลของน้ำมันราว 5,000 บาร์เรล ในพื้นที่ South Dakota ซึ่งการเปิดท่อขนส่งน้ำมันดิบจะส่งผลให้ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จากแคนาดาปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และอาจทำให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นได้

  ความสัมพันธ์ระหว่างเวเนซุเอลากับจีนมีความตึงเครียดมากขึ้นและอาจส่งผลให้เวเนซุเอลาเผชิญกับภาวะวิกฤตของเศรษฐกิจในปีหน้า หลังบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนมีการฟ้องร้องบริษัทน้ำมันของเวเนซุเอลาที่ไม่สามารถชำระหนี้ตามข้อตกลง ซึ่งอาจส่งผลต่อการเจรจาต่ออายุเงินกู้ยืมและหนี้สินกับประเทศจีน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!