- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 12 December 2017 09:39
- Hits: 1632
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความขัดแย้งในไนจีเรียที่เตรียมประทุขึ้นในเร็วนี้
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อกลับ (Short Covering) ของนักลงทุนและกองทุน หลังราคาปรับลดลงอย่างมากกว่าร้อยละ 3 ในวันก่อนหน้า ประกอบกับหนึ่งในกลุ่มแรงงานที่ใหญ่ที่สุดของไนจีเรียออกมาประกาศเตรียมประท้วงครั้งใหม่ในวันที่ 18 ธ.ค. 60 หากรัฐบาลไม่สามารถบังคับให้ผู้บริหารบริษัทน้ำมันระงับการปลดพนักงานออกได้
+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ได้ลดลงถึง 5.6 ล้านบาร์เรลเนื่องจากท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone จากแคนนาดา ยังคงจ่ายน้ำมันอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ แตะระดับต่ำกว่าสองปีที่ผ่านมาที่ระดับ 448.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าร้อยละ 7 จากปีที่ผ่านมา
+ กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบโอเปกได้ลดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำมันดิบจากกลุ่มโอเปกในเดือนที่ผ่านมาได้ลดลงถึง 300,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งนับเป็นการร่วมมือในข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่มากขึ้นถึงร้อยละ 112 จากร้อยละ 92 ในเดือนก่อนหน้า
- อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกำลังการผลิตของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงที่สุดในรอบ 47 ปี ที่ 9.71 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ในทวีปเอเชียที่ยังอยู่ในระดับที่ดี อย่างไรก็ตาม น้ำมันเบนซินยังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในสหรัฐฯ และสิงคโปร์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากน้ำมันดีเซลคงคลังในสิงคโปร์ที่เพิ่มมากขึ้นแตะระดับที่ 11.251 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อจากเวียดนาม
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 55-60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 60-65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจยที่น่าจับตามอง
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบทรงตัวในระดับเหนือ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยการปรับเพิ่มขึ้นหลักๆ มาจากการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale oil) ซึ่งคาดการณ์ในเดือนธ.ค. 60 ปริมาณการผลิตจะปรับเพิ่มขึ้นราว 80,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา สู่ระดับ 6.174 ล้านบาร์เรลต่อวัน และในสัปดาห์ล่าสุด ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้นราว 25,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับในสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9.71 ล้านบาร์เรลต่อวัน
จับตาการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินของท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone กำลังการขนส่งราว 590,0000 บาร์เรลต่อวัน ว่าจะกลับมาดำเนินการตามปกติเร็วๆ นี้หรือไม่ หลังท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone ต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว เนื่องจากตรวจพบการรั่วไหลของน้ำมันราว 5,000 บาร์เรล ในพื้นที่ South Dakota ซึ่งการเปิดท่อขนส่งน้ำมันดิบจะส่งผลให้ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จากแคนาดาปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และอาจทำให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นได้
ความสัมพันธ์ระหว่างเวเนซุเอลากับจีนมีความตึงเครียดมากขึ้นและอาจส่งผลให้เวเนซุเอลาเผชิญกับภาวะวิกฤตของเศรษฐกิจในปีหน้า หลังบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนมีการฟ้องร้องบริษัทน้ำมันของเวเนซุเอลาที่ไม่สามารถชำระหนี้ตามข้อตกลง ซึ่งอาจส่งผลต่อการเจรจาต่ออายุเงินกู้ยืมและหนี้สินกับประเทศจีน