WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

OIL47 ราคาน้ำมันดิบปรับลดติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังนักลงทุนรอผลการประชุมของกลุ่มโอเปกในการยืดระยะเวลาการลดกำลังการผลิต

 -ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเป็นวันที่สาม หลังนักลงทุนรอผลการประชุมของกลุ่มโอเปก ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังเกิดความไม่แน่นอนในการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตในและนอกกลุ่มโอเปก โดยรัสเซียได้แสดงท่าทีลังเลต่อช่วงเวลาในการขยายข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตออกไปเนื่องจากไม่ต้องการให้ราคาน้ำมันมีผลต่อการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินของรัสเซียให้แข็งค่าขึ้นและอาจจะทำให้การส่งออกของรัสเซียชะลอการเติบโตได้

 - ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 9.68 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเข้าใกล้ระดับสูงที่สุดที่สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) เคยเก็บบันทึกมาไว้ที่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงทศวรรษ 1970

 + อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง 3.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมาตามการรายงานของ EIA ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยเป็นผลมาจากการหยุดดำเนินการของท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone ที่มีกำลังการส่งน้ำมันดิบ 590,000 บาร์เรลต่อวัน หลังได้ปิดทำการซ่อมบำรุงไปตั้งแต่สองสัปดาห์ที่ผ่านมา

 + รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของคูเวต เปิดเผยว่า คณะกรรมการรัฐมนตรีร่วมของกลุ่มโอเปกได้ให้คำแนะนำว่า กลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มควรยืดระยะข้อตกลงการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบออกไปจนสิ้นปี 2561 เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

        ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันเบนซินจากประเทศจีนที่ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศศรีลังกา

  ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับปรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากจีนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศปากีสถาน

 

ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

   ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 56-61 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

   ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 61-66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

 

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

 จับตาการประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย. 60 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ว่ากลุ่มผู้ผลิตจะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปเท่าใดจากเดิมที่สิ้นสุดในเดือน มี.ค. 61 โดยซาอุดิอาระเบียและรัสเซียได้มีการออกมากล่าวสนับสนุนการลดการผลิตออกไป 9 เดือนถึงเดือน ธ.ค. 61 เพื่อเป็นการลดปริมาณน้ำมันคงคลังของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (OECD Oil Stocks) ลงสู่ระดับเฉลี่ย 5 ปี ซึ่งสอดคล้องกับนักวิเคราะห์โดยส่วนใหญ่ที่คาดการณ์ว่ากลุ่มผู้ผลิตจะขยายระยะเวลาของข้อตกลงออกไปอีก 9 เดือน หลังปริมาณน้ำมันน้ำมันคงคลังล่าสุดในเดือน ก.ย. ยังสูงกว่าระดับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ประมาณ 154 ล้านบาร์เรล

 ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปรับขึ้นหลักๆ มาจากการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์กำลังการผลิตน้ำมันดิบจาก Shale oil ในเดือน ธ.ค. มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน โดยคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นราว 80,000 บาร์เรลต่อวัน แตะระดับ 6.17 ล้านบาร์เรลต่อวัน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!