WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

OIL48ราคาน้ำมันดิบปรับลดจากความไม่แน่นอนในการต่อระยะเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ

 

  - ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง จากความกังวลต่อความไม่แน่นอนในการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตในและนอกกลุ่มโอเปก หลังรัสเซียแสดงท่าทีลังเลต่อช่วงเวลาในการขยายข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตออกไป

  - ราคาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยกดดัน หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นในเมือง Beaumont รัฐ Texas เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แม้ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ แต่เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ส่งผลให้โรงกลั่นจำเป็นต้องหยุดดำเนินการหน่วยกลั่นน้ำมันดิบขนาด 110,000 บาร์เรลต่อวัน

  - TransCanada จะกลับมาเริ่มดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone ที่มีกำลังการส่งน้ำมันดิบ 590,000 บาร์เรลต่อวันอีกครั้ง หลังจากปิดซ่อมบำรุงไปราวสองสัปดาห์ก่อน โดยไม่ได้ระบุว่าจะสามารถดำเนินการขนส่งเต็มกำลังการผลิตอีกครั้งเมื่อไร

  - ภายหลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 24 พ.ย. 2560 ปรับเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 457.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล

       ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในภูมิภาค แม้ว่าจะมีอุปทานน้ำมันเบนซินจากประเทศจีนออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องก็ตาม

  ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์น้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีความต้องการน้ำมันดีเซลจากประเทศเวียดนาม

 

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

   ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 56-61 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

   ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 61-66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

 

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  จับตาการประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย. 60 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ว่ากลุ่มผู้ผลิตจะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปเท่าใดจากเดิมที่สิ้นสุดในเดือน มี.ค. 61 โดยซาอุดิอาระเบียและรัสเซียได้มีการออกมากล่าวสนับสนุนการลดการผลิตออกไป 9 เดือนถึงเดือน ธ.ค. 61 เพื่อเป็นการลดปริมาณน้ำมันคงคลังของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (OECD Oil Stocks) ลงสู่ระดับเฉลี่ย 5 ปี ซึ่งสอดคล้องกับนักวิเคราะห์โดยส่วนใหญ่ที่คาดการณ์ว่ากลุ่มผู้ผลิตจะขยายระยะเวลาของข้อตกลงออกไปอีก 9 เดือน หลังปริมาณน้ำมันน้ำมันคงคลังล่าสุดในเดือน ก.ย. ยังสูงกว่าระดับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ประมาณ 154 ล้านบาร์เรล

  ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปรับขึ้นหลักๆ มาจากการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์กำลังการผลิตน้ำมันดิบจาก Shale oil ในเดือน ธ.ค. มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน โดยคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นราว 80,000 บาร์เรลต่อวัน แตะระดับ 6.17 ล้านบาร์เรลต่อวัน    

  

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!