- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 29 November 2017 17:23
- Hits: 3579
ราคาน้ำมันดิบปรับลดจากความไม่แน่นอนในการต่อระยะเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง จากความกังวลต่อความไม่แน่นอนในการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตในและนอกกลุ่มโอเปก หลังรัสเซียแสดงท่าทีลังเลต่อช่วงเวลาในการขยายข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตออกไป
- ราคาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยกดดัน หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นในเมือง Beaumont รัฐ Texas เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แม้ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ แต่เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ส่งผลให้โรงกลั่นจำเป็นต้องหยุดดำเนินการหน่วยกลั่นน้ำมันดิบขนาด 110,000 บาร์เรลต่อวัน
- TransCanada จะกลับมาเริ่มดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone ที่มีกำลังการส่งน้ำมันดิบ 590,000 บาร์เรลต่อวันอีกครั้ง หลังจากปิดซ่อมบำรุงไปราวสองสัปดาห์ก่อน โดยไม่ได้ระบุว่าจะสามารถดำเนินการขนส่งเต็มกำลังการผลิตอีกครั้งเมื่อไร
- ภายหลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 24 พ.ย. 2560 ปรับเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 457.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในภูมิภาค แม้ว่าจะมีอุปทานน้ำมันเบนซินจากประเทศจีนออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องก็ตาม
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์น้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีความต้องการน้ำมันดีเซลจากประเทศเวียดนาม
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 56-61 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 61-66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย. 60 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ว่ากลุ่มผู้ผลิตจะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปเท่าใดจากเดิมที่สิ้นสุดในเดือน มี.ค. 61 โดยซาอุดิอาระเบียและรัสเซียได้มีการออกมากล่าวสนับสนุนการลดการผลิตออกไป 9 เดือนถึงเดือน ธ.ค. 61 เพื่อเป็นการลดปริมาณน้ำมันคงคลังของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (OECD Oil Stocks) ลงสู่ระดับเฉลี่ย 5 ปี ซึ่งสอดคล้องกับนักวิเคราะห์โดยส่วนใหญ่ที่คาดการณ์ว่ากลุ่มผู้ผลิตจะขยายระยะเวลาของข้อตกลงออกไปอีก 9 เดือน หลังปริมาณน้ำมันน้ำมันคงคลังล่าสุดในเดือน ก.ย. ยังสูงกว่าระดับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ประมาณ 154 ล้านบาร์เรล
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปรับขึ้นหลักๆ มาจากการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์กำลังการผลิตน้ำมันดิบจาก Shale oil ในเดือน ธ.ค. มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน โดยคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นราว 80,000 บาร์เรลต่อวัน แตะระดับ 6.17 ล้านบาร์เรลต่อวัน