- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 24 November 2017 18:56
- Hits: 10834
กกพ.ไฟเขียว โรงไฟฟ้าฯ SPP Hybrid Firm 42 โครงการ ผ่านเงื่อนไขเทคนิค พบกลุ่ม SSP มียอดเสนอขายไฟมากสุด 82 MW
กกพ. ไฟเขียว โรงไฟฟ้าฯ SPP Hybrid Firm 42 โครงการ จาก 85 โครงการ ผ่านเงื่อนไขเทคนิค ขนาดกำลังผลิตติดตั้งรวม 1,062.2 MW ปริมาณเสนอขาย 755.3 MW พร้อมประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้ได้ภายในวันที่ 14 ธันวาคม 2560 พบบจ.เรียงหน้ารับงานเพียบ ชี้กลุ่ม เสริมสร้าง พาวเวอร์ (SSP) มียอดเสนอขายมากสุด 82 MW จาก 4 โครงการ
นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะรองโฆษกสำนักงาน กกพ. เปิดเผยว่า มีผู้เสนอขายไฟฟ้า ภายใต้โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรูปแบบ SPP Hybrid Firm ปี 2560 จากทั่วประเทศ จำนวน 42 โครงการ ขนาดกำลังผลิตติดตั้งรวม 1,062.2 เมกะวัตต์ โดยมีปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวมทั้งสิ้น 755.3 เมกะวัตต์ ผ่านการพิจารณาข้อเสนอทางเทคนิค เพื่อที่จะเข้าสู่ขั้นตอนของการพิจารณาข้อเสนอทางด้านราคา โดยกำหนดจะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้ได้ภายในวันที่ 14 ธันวาคม 2560
ก่อนหน้านี้ สำนักงาน กกพ. ได้เปิดให้ผู้สนใจเข้ายื่นข้อเสนอขายไฟฟ้าจากโครงการ SPP Hybrid Firm เมื่อวันที่ 16 - 20 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ได้มีผู้มายื่นข้อเสนอขายไฟฟ้าจำนวน 85 โครงการ ซึ่งจากการตรวจสอบคุณสมบัติและประเมินข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิค พบว่า มีโครงการที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกจำนวน 42 โครงการ ขนาดกำลังผลิตติดตั้งรวม 1,062.2 เมกะวัตต์ โดยมีปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวมทั้งสิ้น 755.3 เมกะวัตต์ สำหรับโครงการที่ไม่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกอีก 43 โครงการนั้น จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ได้ยื่นมา พบว่า เอกสารหลักฐานขาดความสมบูรณ์ ไม่ถูกต้องครบถ้วน และไม่เป็นไปตามที่หลักเกณฑ์กำหนด อาทิ ไม่มีความพร้อมด้านเชื้อเพลิง ที่ดิน และแหล่งเงินทุนในการประกอบกิจการ เป็นต้น
“โครงการนี้เป็นการรับซื้อแบบ Feed-in Tariffs หรือ FiT ในอัตราการรับซื้อไฟฟ้าเริ่มต้นที่ 3.66 บาทต่อหน่วย แบ่งเป็นอัตรา FiT คงที่ 1.81 บาทต่อหน่วย และอัตรา FiT ผันแปร 1.85 บาทต่อหน่วย (ตามอัตราเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นจากปี 2560) ซึ่งจะแข่งกันทุกประเภทเชื้อเพลิงโดยให้ผู้ยื่นข้อคำร้องเสนอส่วนลด (%) จากอัตรา FiT คงที่ ซึ่งหลังจากนี้ สำนักงาน กกพ. จะพิจารณาข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านราคา โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาประเมินข้อเสนอขายไฟฟ้าด้านราคา และจะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกภายในวันที่ 14 ธันวาคม 2560 ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ.” นางสาวนฤภัทร กล่าว
นางสาวนฤภัทร กล่าวว่า โดยหลังจากประกาศผลการคัดเลือกแล้ว ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการต้องเร่งดำเนินการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) หรือรายงานการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน แก้ไข และติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Code of Practice: CoP) ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ทันกำหนดวันลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ภายในวันที่ 13 ธันวาคม 2562 และสามารถดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ได้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 ถึงภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ทั้งนี้ กกพ.ประกาศรายชื่อ 42 โครงการ มีโครงการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ดังนี้
บริษัท บ้านปูพาวเวอร์ จำกัดมหาชน 1 โครงการ ปริมาณเสนอขายไฟ 10.1 MW
บริษัทย่อยของ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER อย่าง บ.ซุปเปอร์โซลาร์ เอเนอร์ยี จำกัด 2 โครงการ โครงการละ 16 MW , บ.ซุปเปอร์เอิร์ธ เอนเนอร์ยี 3 จำกัด 2 โครงการละ 15 MW
บริษัทย่อยของ บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SSP บ.เสริทสร้าง คอร์เอเรชั่น จำกัด 4 โครงการ โครงการละ 22 MW 3 โครงการ และ 16 MW 1 โครงการ
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM 1 โครงการ 30 MW และบริษัทย่อย บ.บี.กริม โซลาร์ เพาเวอร์1 จำกัด 1 โครงการ 20 MW
บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL 1 โครงการ 10.5 MW
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย