- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 09 November 2017 11:58
- Hits: 1430
สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจจัดเสวนา'การปฏิรูปพลังงาน ในห้วงปฏิรูปประเทศ' ย้ำกกพ.ต้องปรับตัว เอกชนให้ตรวจสอบทุกโครงการป้องปัญหาร้องเรียนสิ่งแวดล้อม
นายมนูญ ศิริวรรณ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน กล่าวในงานเสวนา งการปฏิรูปพลังงาน ในห้วงปฏิรูปประเทศง ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจว่า จากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วหรือ ทำให้ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องปรับตัวรองรับ ซึ่งจะนำผลกระทบดังกล่าวเข้ามาร่วมพิจารณาในระดับนโยบายด้วย และเพื่อสร้างการแข่งขันจำเป็นต้องมุ่งเน้นการเปิดเสรีลดการผูกขาดกิจการพลังงานโดยมีแนวคิดเสนอกรรมการปฏิรูปด้านพลังงาน เพื่อเสนอรัฐให้แยกกิจการระบบส่งและท่อก๊าซฯออกมาเปิดให้บุคคลอื่นๆใช้ได้
โดยนายมนูญย้ำว่าปัจจุบันท่อก๊าซและสายส่งยังคงผูกขาดโดยกลุ่ม.ปตท. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)
"คิดว่าควรนำมาเปิดให้บุคคลที่สามใช้ได้เพื่อให้เกิดการแข่งขันโดยให้แยกกิจการมาแต่รูปแบบใดนั้นมีหลายทางเลือกเช่น ตั้งบริษัทใหม่ ฯลฯ นอกจากนี้การจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศหรือPDP 2015ใหม่ก็ต้องคำนึงถึงเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปด้วย สำหรับหน่วยงานกำกับดูแลก็จำเป็นต้องปรับบทบาทใหม่ให้รองรับกฎหมายใหม่ และเทคโนโลยีเช่นกันทั้งกระทรวงพลังงานเช่น กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติที่ต้องมีภารกิจใหม่ภายใต้พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฯลฯ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ที่มีอำนาจกว้างขวางมีคณะกรรมการ 7 คนดูแลแต่ละสายงานซึ่งมีมากเกินไปหรือไม่ ยังไม่สามารถแก้ปัญหาความซ้ำซ้อนของงานได้ การส่งเสริมพลังงานทุกชนิดควรลดการอุดหนุนลงให้มากที่สุดหรือไม่อุดหนุนเลยโดยผ่านระบบการประมูล โดยการกำหนดให้แข่งขันในเรื่อง Feed in Tarrif ( FiT) เพราะต้นทุนสามารถแข่งขันกับพลังงานฟอสซิลได้แล้ว และโซลาร์รูฟท็อปเสรีก็ควรจะเปิดเสรีโดยเน้นการผลิตเองใช้เองเป็นหลักที่เหลือรับซื้อ แต่ราคาต่ำเพื่อไม่จูงใจให้ผลิตออกมาเกินความจำเป็น” นายมนูญกล่าว
ในขณะที่นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาคพลังงานจำเป็นต้องปฏิรูปการทำงานขององค์กรด้านการกำกับดูแลก่อน โดยเฉพาะหน่วยงาน กกพ. ที่มีบทบาทสำคัญด้านการอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้าของภาคเอกชน โดยเสียงสะท้อนของภาคเอกชนต้องการให้ กกพ.เปลี่ยนวิธีการรับฟังความเห็นประชาชนใหม่ จากปัจุบัน กกพ.ใช้วิธีเปิดรับฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์ ให้เปลี่ยนเป็นการเปิดเวทีสาธารณะในหลายที่เพื่อให้ผู้มีส่วนได้รับทราบและมีส่วนร่วมแสดงความเห็นอย่างแท้จริง และการเปิดเวทีสาธารณะควรเปลี่ยนคำว่า 'ประชาชนมีส่วนร่วม' เป็นคำว่า 'ประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย' ซึ่งจะทำให้เข้าถึงประชาชนได้มากกว่าและช่วยลดปัญหาการต่อต้านของประชาชนลงได้ รวมทั้ง กกพ.ควรมีการติดตามตรวจสอบทุกโครงการที่ได้อนุมัติแล้วว่าได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและช่วยลดข้อร้องเรียนจากประชาชน
สำหรับภาคผู้ประกอบการนายชัยโรจน์ โฆษิตศิริทวีพร ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม สมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาคธุรกิจโรงแรมพยายามปรับตัวเพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานลงอย่างเต็มที่ ตามที่รัฐมีนโยบายส่งเสริม ทั้งการปรับปรุงอุปกรณ์ชิลเลอร์ในระบบแอร์ การนำเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา(โซลาร์รูฟท็อป)เข้ามาช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่เกิดความต้องการสูงสุด(พีค)ลงไปได้
"ธุรกิจบริการเริ่มหันมาติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปมากขึ้น เพื่อประหยัดพลังงานแต่ในตอนกลางวันจะลดความต้องการใช้ไฟสูงสุด(Peak)ได้มากแต่สิ่งที่ทางธุรกิจโรงแรมคาดหวังภาครัฐมากที่สุดคือ ค่าไฟฟ้าที่ไม่แพงเกินไป และการจัดหาพลังงานให้มีอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง มีเสถียรภาพ”นายชัยโรจน์ กล่าว