- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 19 October 2017 18:56
- Hits: 8768
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นจากความตึงเครียดในอิรักและอิหร่าน
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากกำลังการผลิตของแหล่งน้ำมันดิบ Bai Hassan และ Avan ที่ลดลงจากความเสียหายของสถานีสูบถ่ายน้ำมันจำนวน 6 สถานี หลังจากที่กองกำลังทหารอิรักเข้ายึดแหล่งน้ำมันดิบขนาดใหญ่ในบริเวณเคอร์ดิสถานคืนจากชาวเคิร์ดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ด้านน้ำมันของอิรักคาดว่าจะสามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้ตามปกติภายใน 24 ชั่วโมง
+ การปฏิเสธที่จะลงนามรับรองว่ารัฐบาลอิหร่านปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์เมื่อปี 2558 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความกังวลต่อปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของอิหร่านที่อาจหายไปจากตลาด โดยหากพิจารณาจากการคว่ำบาตรต่ออิหร่านในครั้งที่ผ่านมา ปริมาณน้ำมันดิบจากอิหร่านหายไปราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์การขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มในและนอกโอเปก ซึ่งอาจมีการกำหนดนโยบายดังกล่าวในการประชุมของกลุ่มโอเปกที่จะเกิดขึ้นในวันที่
30 พ.ย. 2560 ที่กรุงเวียนนา
- อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดานในสหรัฐฯ ที่อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 2561 หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ คาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ในปีหน้าอาจสูงถึง 9.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ตลาดสิงคโปร์ปิดทำการเนื่องจากวันหยุดเทศกาลดีปาวลี
ราคาน้ำมันดีเซล ตลาดสิงคโปร์ปิดทำการเนื่องจากวันหยุดเทศกาลดีปาวลี
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 55-60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะปรับลดลง จากการผลิตน้ำมันดิบที่ปรับลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากผลกระทบของพายุเฮอริเคน Nate ประกอบกับโรงกลั่นหลายแห่งยังคงอัตราการกลั่นในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการใช้น้ำมันที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ล่าสุด สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 ต.ค.60 ปรับลดลงราว 2.7 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 462.2 ล้านบาร์เรล
ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดในอิรักว่าจะรุนแรงและกระทบตลาดน้ำมันหรือไม่ หลังในวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่นในภูมิภาคเคอร์ดิสถาน (KRG) เขตกึ่งปกครองตนเองทางเหนือของอิรักจัดการลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชจากอิรัก สร้างความไม่พอใจให้กับนานาประเทศ รวมถึงรัฐบาลกลางของอิรัก โดยล่าสุด สถานการณ์ความตึงเครียดเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น หลังกองทัพของอิรักและอิหร่านเตรียมฝึกซ้อมทางทหารบริเวณพื้นที่ชายแดนของอิหร่าน ซึ่งติดกับพื้นที่ของเคอร์ดิสถาน เพื่อแสดงแสนยานุภาพ นอกจากนี้ ศาลอิรักยังออกหมายจับผู้นำของ KRG และผู้ช่วยอีก 2 คน หลังจัดการลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชจากอิรัก
จับตาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนที่จะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งได้มีการตกลงกันตั้งแต่เดือน ก.ค. 58 โดยมี 6 ประเทศร่วมการเจรจาครั้งนี้ ได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส และเยอรมนี โดยในวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา นายทรัมป์ปฏิเสธที่จะรับรองว่าอิหร่านได้ปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ และให้สภาคองเกรสตัดสินใจว่าจะนำมาตรการคว่ำบาตรกลับมาใช้กับอิหร่านอีกครั้งหรือไม่