- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 22 August 2014 22:18
- Hits: 2601
พลังงานถกคลังลุยแยกท่อก๊าซ จ่อใช้วายุภักษ์ถือหุ้นปตท.จี้เก็บข้อมูลบริษัทลูกรสก.
ไทยโพสต์ : วิภาวดีรังสิต *'อารีพงศ์'หารือคลัง กำหนดความชัดเจนการเข้าถือหุ้นธุรกิจท่อก๊าซขั้นต่ำ 25% หลัง ปตท.แยกธุรกิจท่อก๊าซเสร็จ จ่อใช้กองทุนวายุภักษ์ถือหุ้น ปตท. 25% ตามมติ กพช. หวังลดการผูกขาด พร้อมแจง ปตท. ส่งท่อก๊าซคืนหลวงครบตามคำสั่งศาลปกครองแล้ว สคร.เก็บข้อมูลบริษัทลูกรัฐวิสาหกิจเพื่อหามาตรการกำกับดูแล วางแผนธุรกิจ
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้หารือกับกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เพื่อสร้างความชัดเจนกรณีการเข้าถือหุ้นในธุรกิจท่อก๊าซธรรมชาติ ภายหลังจากที่ บมจ.ปตท.ดำเนินการแยกธุรกิจท่อก๊าซเสร็จตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่ให้ ปตท.แยกธุรกิจท่อก๊าซออกมาเพื่อลดปัญหาการผูกขาดธุรกิจท่อก๊าซ และช่วยให้การบริหารท่อก๊าซชัดเจนขึ้น โดยเบื้องต้นจะให้ ปตท.ถือหุ้น 100% ไปก่อน จากนั้นจะให้กระทรวงการคลังเข้ามาถือหุ้นร่วม
ทั้งนี้ เบื้องต้นจะหารือเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อสังคม กรณีการเข้าถือหุ้นธุรกิจท่อก๊าซ โดยกระ ทรวงการคลังจะเข้าไปถือหุ้นอย่าง น้อย 25% ในธุรกิจท่อส่งก๊าซ ซึ่งจะพิจารณาว่าจะใช้เงินจากกองทุนวายุภักษ์ หรือถือหุ้นผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราฟันด์) และยืนยันว่าจะไม่มีการแปรรูปธุรกิจท่อก๊าซเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แน่นอน เป็นเพียงการแยกทรัพย์สินให้เกิดความชัดเจนเท่านั้น และเปิดให้ผู้ประกอบการอื่นๆ สามารถเข้ามาใช้ท่อก๊าซได้ ลดปัญหาการผูกขาดธุรกิจท่อก๊าซลง
"การแยกธุรกิจท่อก๊าซออก มา จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงราคาค่าใช้บริการผ่านท่อก๊าซ ซึ่งปัจจุบันคณะกรรม การกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ กำหนดราคาค่าผ่านท่อไว้ประมาณ 21.76 บาทต่อล้านบีทียู และในอนาคตก็ยังเป็นผู้ดูแลราคาค่าผ่านท่อ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อราคาก๊าซในอนาคตให้ถูกลงได้เมื่อปล่อยให้เกิดการแข่งขันธุรกิจท่อก๊าซขึ้น"นายอารีพงศ์กล่าว
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จะมีการหารือรายละเอียดในการเข้าไปถือหุ้นอีกครั้ง โดยเบื้องต้น อาจให้กองทุนวายุภักษ์เข้าไปดำ เนินการซื้อหุ้นตามสัดส่วนดังกล่าว แต่ก็ต้องมาดูเงินงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการด้วยว่า ควรจะอยู่ที่เท่าไหร่ และมาจากแหล่งไหน คงต้องรอการประชุมผู้ถือหุ้นของกองทุนวายุภักษ์พิจารณาเรื่องนี้ด้วย ปัจจุบันกระทรวงการคลังเข้าไปถือหุ้นอยู่ใน ปตท.แล้ว กว่า 51% และกองทุนวายุภักษ์อีก 14% รวมเป็น 65% ซึ่งมีน้ำหนักและอำนาจในการถ่วงดุลการบริหารงานอย่างเพียงพอ
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตจาก นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน และเครือข่ายปฏิ รูปพลังงาน เรื่องการส่งมอบท่อก๊าซและที่ดิน ที่ใช้ดำเนินการให้กับกรมธนารักษ์ไม่ครบนั้น ได้มีการตรวจสอบข้อมูลกับกรมธนารักษ์ ยืนยันว่า ปตท.ได้ดำเนินการคืนท่อก๊าซดังกล่าว ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นท่อก๊าซและอุปกรณ์ต่างๆ 1.4 หมื่นล้านบาท และที่ดินกว่า 106 แปลง คิดเป็น 32 ไร่ มูลค่า 1 พันล้านบาท ให้กับกรมธนารักษ์ตั้งแต่ปี 2551 และได้มีการราย งานให้ศาลปกครองรับทราบแล้ว ส่วนก๊าซในทะเลนั้น ได้มีข้อยุติแล้วว่า ปตท.ไม่จำเป็นต้องส่งคืน ให้กับกรมธนารักษ์ เพราะเป็นส่วนที่ ปตท.จัดหามาเอง จึงถือเป็นสมบัติของ ปตท.
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ไปรวบรวมข้อมูลบริษัทลูกรัฐวิสาหกิจ (รสก.) ที่ตั้งขึ้นมาถึง 300 แห่ง และบางแห่งมีการลงทุนในต่างประเทศว่ามีสถานะทางการเงินเป็นอย่างไร ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศหรือไม่ เพื่อหาแนวทางและมาตรการในการกำกับดูแลให้การดำเนินการเกิดประโยชน์มากที่สุด.