- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 14 May 2014 15:04
- Hits: 3443
ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 105 –111 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 98-105 เหรียญฯ
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ( 5 - 9 พ.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบที่ลดลงเล็กน้อย โดยราคาจะได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นของลิเบียและปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะเดียวกันการประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรปยังเป็นที่น่าจับตามองว่าธนาคารฯ จะประกาศมาตรการใดเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศในยูโรโซน อย่างไรก็ดีสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กำลังรุนแรงอยู่ในขณะนี้มีส่วนสนับสนุนราคาน้ำมัน
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
การประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรป ในวันที่ 8 พ.ค. นี้ จับตาว่านายมาริโอ้ ดรากี้ ประธานธนาคารฯ จะมีมาตรการใดมาช่วยให้กลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโรหลีกเลี่ยงภาวะเงินฝืด และมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจกลุ่มสหภาพยุโรปหรือไม่ หลังตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% ในการประชุมเมื่อเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ล่าสุดนายนายมาริโอ ส่งสัญญาณว่าอาจมีการใช้มาตรการที่ไม่เคยใช้มาก่อน เช่น นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ หรือมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
การส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเรื่องภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวลง โดยล่าสุดลิเบียส่งออกน้ำมันจากท่าเรือ Zueitina เป็นครั้งแรกในช่วงสุดสัปดาห์หลังท่าเรือถูกกลุ่มผู้ประท้วงปิดมานานกว่า 10 เดือน และตลาดคาดว่าการส่งออกน้ำมันของลิเบียจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 230,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 350,000 – 400,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงปลายเดือน พ.ค.นี้
จับตาปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังสหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโรงกลั่นบางแห่งที่เสร็จสิ้นการปิดซ่อมบำรุงแล้วเมื่อปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การเปิดใช้ท่อส่งน้ำมัน Keystone ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่คุชชิ่ง โอคลาโฮมา ปรับลดลงต่อเนื่อง
สถานการณ์ยูเครน – รัสเซียยังคงเป็นที่น่าจับตามองและจะยังคงกระทบต่อราคาน้ำมัน หลังสหรัฐฯ และยุโรปออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม โดยยังคงเน้นที่รายบุคคลของผู้ใกล้ชิตประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย ขณะที่การปะทะกันของทหารยูเครนและกลุ่มกบฎฝักใฝ่รัสเซียมีความรุนแรงมากขึ้น
รายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน พ.ค. ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ในวันที่ 6 พ.ค. ติดตามว่าจะมีการปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปีนี้ลงหรือไม่ หลังหลายฝ่ายกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายตัวที่ลดลงของผู้บริโภคน้ำมันอันดับสองของโลกอย่างจีน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคบริการสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป รวมถึงยอดค้าปลีกยุโรป ตัวเลขการนำเข้า – ส่งออก และดุลการค้าจีน
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (28 เม.ย. – 2 พ.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 0.84 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 99.76 เหรียญฯ และเบรนท์ปรับลดลง 0.99 เหรียญฯ ปิดที่ 108.59 เหรียญฯ ส่วนดูไบปรับลดลงเช่นกันมาอยู่ที่ระดับ 104 เหรียญฯ
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลงหลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ยังคงปรับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และยังคงอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 32 ปี ขณะที่ลิเบียกลับมาเปิดใช้ท่าเรือ Zuetina (กำลังส่งออก 70,000 บาร์เรลต่อวัน) ได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดไอเอ็มเอฟได้อนุมัติเงินกู้เพื่อแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจให้แก่ยูเครนมูลค่า 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อช่วยให้ยูเครนสามารถไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้ภายในปีนี้ ประกอบกับตัวเลขอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง รวมถึงความไม่สงบระหว่างยูเครนและรัสเซียยังคงสร้างแรงหนุนต่อราคาน้ำมันดิบให้ปรับลดลงไม่มากนัก