- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 07 August 2017 19:37
- Hits: 5517
ไทยออยล์ คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน 7 - 11 ส.ค. 60 และสรุปสถานการณ์ฯ 31 ก.ค. - 4 ส.ค. 60
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (7 ส.ค. – 11 ส.ค. 60)
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากการปรับลดปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง หลังความต้องการใช้น้ำมันดิบในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับ การนำเข้าน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับลดลง นอกจากนี้ ยังได้รับแรงหนุนจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะทรงตัว หลังราคาน้ำมันดิบปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยังต้องจับตาการประชุมระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 7-8 ส.ค. นี้ ว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ รวมถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอล่าที่อาจนำไปสู่การคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอล่าหรือไม่ นอกจากนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์การปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินของโรงกลั่น Shell ในเนเธอร์แลนด์ ที่มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะสามารถกลับมาดำเนินการอีกครั้งในเดือนนี้
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะปรับลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน หลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐ มีแนวโน้มคงกำลังการกลั่นในระดับสูงต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันในช่วงฤดูกาลขับขี่ รวมถึงการนำเข้าน้ำมันดิบที่คาดจะปรับลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ก.ค. ปรับลดลง 1.5 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ระดับ 481.88 ล้านบาร์เรล
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า เนื่องจากการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวลงหลังราคาน้ำมันดิบปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับ บริษัทน้ำมันหลายรายประกาศลดงบลงทุน (CAPEX) โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเพียง 10 แท่นในเดือน ก.ค. 60 ลดลงจากไตรมาสแรกและสองที่เพิ่มขึ้น 133 และ 94 ตามลำดับ นอกจากนี้ระดับดังกล่าวถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 59 อย่างไรก็ตาม งบลงทุนในปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่าร้อยละ 51
ตลาดมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากการประชุมของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 7-8 ส.ค. นี้ ที่จะจัดขึ้น ณ เมือง อาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อหารือถึงสาเหตุของการที่บางประเทศผลิตน้ำมันดิบเกินกว่าข้อตกลง ซึ่งก่อนการประชุมในสัปดาห์นี้ ประเทศยักษ์ใหญ่ของกลุ่มโอเปกอย่างซาอุดิอาระเบียได้ออกมาให้ความเห็นว่าจะเพิ่มแรงกดดันต่อประเทศที่ไม่สามารถลดกำลังการผลิตได้ตามข้อตกลง ในเวลาต่อมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นประเทศที่ยังผลิตเกินข้อตกลงได้ออกมาให้คำมั่นว่าจะปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น
จับตาการพิจารณาคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันเวเนซุเอล่าของสหรัฐฯ หลังมีการจัดการเลือกตั้งสภาร่างธรรมนูญในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อยุบสภานิติบัญญัติที่ฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากและร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งอาจทำให้ประชาธิปไตยภายในประเทศอ่อนแอลง ทั้งนี้ การคว่ำบาตรครั้งนี้อาจทำให้เวเนซุเอลาไม่สามารถส่งน้ำมันดิบไปยังสหรัฐฯ ได้ ในขณะเดียวกัน เวเนซุเอลาก็อาจไม่ได้รับสิทธิ์ในการซื้อน้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูปจากสหรัฐฯเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ PDVSA ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอล่าอาจถูกจำกัดการเข้าถึงระบบธนาคารในสหรัฐฯ
ติดตามสถานการณ์การปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินของโรงกลั่น Shell ในเนเธอร์แลนด์ กำลังการผลิต 404,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นโรงกลั่นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป หลังเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ขึ้นในวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากเหตุการณ์นี้อาจส่งผลให้มีการขายน้ำมันดิบออกสู่ตลาดมากขึ้น ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าโรงกลั่นดังกล่าวจะสามารถเปิดดำเนินการอีกครั้งอย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายเดือน ส.ค. 60 นี้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคจีน ดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคสหรัฐฯ และ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐฯ
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (31 ก.ค. – 4 ส.ค. 60)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 0.13 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 49.58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลง 0.10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 52.42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังถูกกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกที่ปรับเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่นักเคราะห์คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินของโรงกลั่นในเนเธอร์แลนด์ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข่าวการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันเวเนซุเอล่าโดยสหรัฐฯ