- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 07 August 2017 19:35
- Hits: 5375
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีเกินคาดการณ์
+ ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น หลังการประกาศตัวเลขเศรษฐกินของสหรัฐฯ ออกมาดีเกินคาดการณ์ ซึ่งส่งผลให้ตลาดมีความคาดหวังว่าจะมีความต้องการใช้น้ำมันจากสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ของเดือน ก.ค. ปรับตัวเพิ่มมากขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งปรับเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่ง
- อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง 1% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ และกลุ่มโอเปกเพิ่มมากขึ้น รวมถึงปริมาณการส่งออกน้ำมันจากกลุ่มโอเปกเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันมีปริมาณจำกัด ถึงแม้ว่ากลุ่มโอเปกมีการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ก.ค. ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดมาอยู่ที่ระดับ 26.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยปรับเพิ่มขึ้น 370,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นส่วนที่มาจากประเทศไนจีเรียมากที่สุด
- ขณะที่รัสเซีย กำลังการผลิตน้ำมันดิบของ Rosneft ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของรัสเซียปรับเพิ่มขึ้น 11.1% จากปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน ส่วนสหรัฐฯ มีปริมาณกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน ส.ค. 2558 ซึ่งปรับเพิ่มขึ้น 12% จากปริมาณต่ำสุดในเดือน มิ.ย. ปีที่ผ่านมา มาสู่ระดับ 9.43 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+ จำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 1 แท่น ในสัปดาห์สิ้นสุดวัน 4 ส.ค. มาสู่ระดับ 765 แท่น ซึ่งเป็นการปรับลดจำนวนแท่นขุดเจาะลงเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสามสัปดาห์
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณอุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคตึงตัว ขณะที่มีความต้องการน้ำมันเบนซินจากอินโดนีเซียเพิ่มมากขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากไม่คุ้มค่าที่จะส่งออกน้ำมันดีเซลจากภูมิภาคเอเซียและตะวันออกกลางไปยังฝั่งตะวันตกของ Suez ได้
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 เหรียญสหรัฐ ฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะปรับลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน หลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐ มีแนวโน้มคงกำลังการกลั่นในระดับสูงต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันในช่วงฤดูกาลขับขี่ รวมถึงการนำเข้าน้ำมันดิบที่คาดจะปรับลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ก.ค. ปรับลดลง 1.5 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ระดับ 481.88 ล้านบาร์เรล
ตลาดมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากการประชุมของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 7-8 ส.ค. นี้ ณ เมือง อาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อหารือถึงสาเหตุของการที่บางประเทศผลิตน้ำมันดิบมากกว่าข้อตกลง ซึ่งก่อนการประชุมในสัปดาห์นี้ ประเทศยักษ์ใหญ่ของกลุ่มโอเปกอย่างซาอุดิอาระเบียได้ออกมาให้ความเห็นว่าจะเพิ่มแรงกดดันต่อประเทศที่ไม่สามารถลดกำลังการผลิตได้ตามข้อตกลง ในเวลาต่อมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นประเทศที่ยังผลิตเกินข้อตกลงได้ออกมาให้คำมั่นว่าจะปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น
จับตาการพิจารณาคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันเวเนซุเอล่าของสหรัฐฯ หลังมีการจัดการเลือกตั้งสภาร่างธรรมนูญในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อยุบสภานิติบัญญัติที่ฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากและร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งอาจทำให้ประชาธิปไตยภายในประเทศอ่อนแอลง ทั้งนี้ การคว่ำบาตรครั้งนี้อาจทำให้เวเนซุเอลาไม่สามารถส่งผลน้ำมันดิบไปสู่สหรัฐฯ ได้ ในขณะเดียวกัน เวเนซุเอลาก็อาจไม่ได้รับสิทธิ์ในการซื้อน้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูปจากสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน