- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 20 August 2014 13:36
- Hits: 2851
เอกชนเมิน'โซลาร์ฟาร์ม' อ้างรัฐปรับลดเงินอุดหนุน
ไทยโพสต์ : งามวงศ์วาน * พีอีเอ มึนลงทุนโซลาร์ฟาร์มได้แค่ครึ่ง หลัง กพช.ปรับลดเงินสนับสนุนใหม่จากแอดเดอร์ มาเป็น 'ฟีทอินทารีฟ'ลุยสานต่อนโยบายรับซื้อไฟฟ้ารูฟท็อป อีก 50 เมกะวัตต์
นายนำชัย หล่อวัฒนตระ กูล ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (พีอีเอ) เปิดเผยว่า หลังคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติกำหนดเส้นตายให้นักลงทุนที่ยื่นขอใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอา ทิตย์ขนาดใหญ่ (โซลาร์ฟาร์ม) ไว้กับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ ตั้งแต่ปี 2552-2553 ให้ดำเนินการผลิตไฟฟ้าเข้าระบบให้เสร็จภายในปี 2558 นั้น เชื่อว่าจะมีนักลงทุนดำเนินการผลิตจริงเพียง 500 เมกะวัตต์ จากที่ยื่นขอผลิตไว้แต่ยังไม่ดำเนินการ (ค้างท่อ) อยู่ทั้งสิ้น 1,054 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ เนื่องจาก กพช.ที่ผ่านมามีมติให้ปรับระบบเงินสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทด แทนใหม่ จากระบบ "เงินส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า หรือแอดเดอร์" มาเป็น "เงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง หรือฟีทอินทารีฟ" ซึ่งฟีท อินทารีฟกำหนดให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตโซลาร์ฟาร์มเพียง 5.66 บาทต่อหน่วย โดยเมื่อเปรียบเทียบกับระบบแอดเดอร์จะให้ 6.50 บาทต่อหน่วย รวมกับค่าไฟฟ้าฐานอีกกว่า 3 บาทต่อหน่วย ดังนั้นระบบฟีทอินทารีฟทำให้ผู้ผลิตไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มได้รับเงินสนับสนุนน้อยลง และนักลงทุนอาจสนใจผลิตโซลาร์ฟาร์มเข้ามาจริงแค่ 500 เมกะวัตต์เท่านั้น
นอกจากนี้ กพช.ยังมีมติให้เปิดรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) เพิ่มให้ครบตามเป้าหมาย 200 เมกะวัตต์ โดยเริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงกำหนดสิ้นปี 2558 ตามมติ กพช.ส่วนโครงการผลิตไฟฟ้าชุมชน 800 เมกะวัตต์นั้น ทาง กพช.ได้เปลี่ยนไปให้กลุ่มราชการและสหกรณ์เพื่อการเกษตร ดำเนินการแทนกองทุนหมู่บ้านที่ติดปัญ หาด้านการเงินและระเบียบต่างๆ มากมาย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กพช.อยู่ระหว่างการจัดการกับคำขอผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ต่างๆ ที่ยังค้างอยู่และยังไม่ผลิตไฟฟ้าตามแผนให้เสร็จในปี 2558 และเชื่อว่าภาครัฐอาจเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มเพิ่มอีก 1,000 เมกะวัตต์ และโซลาร์รูฟท็อปอาจเปิดรับได้อีก 200 เมกะวัตต์ แบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 25% ในปี 2564.