- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 28 June 2017 20:49
- Hits: 8815
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัว ประกอบกับคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับลด
+ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวลงร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับสกุลเงินในตะกร้าหลัก ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนกลับมาลงทุนทำกำไรในสัญญาน้ำมันดิบมากขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในสกุลเงินสหรัฐฯ จะราคาต่ำลงและดึงดูดนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆมากขึ้น
+ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนเพื่อทำกำไรระยะสั้นหลังราคาน้ำมันดิบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
+ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จะปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 3 สัปดาห์ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 3.25 ล้านบาร์เรล ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) จะรายงานตัวเลขจริงในวันนี้
+/- นักลงทุนยังคงจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ (โอเปก) โดยรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานจากประเทศหลักของกลุ่มโอเปก จะประชุมร่วมกันที่รัสเซียในวันที่ 24 ก.ค. นี้ โดยที่ประชุมอาจมีการเสนอมาตรการกระตุ้นราคาเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมโอเปกในเดือน พ.ย. ต่อไป
- อย่างไรก็ตาม สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 23 มิ.ย. 60 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 851,000 บาร์เรล ไปแตะที่ระดับ 509.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล
- กำลังการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียยังคงอยู่ในระดับสูง โดยตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ระดับ 935,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งบริษัทน้ำมันแห่งชาติตั้งเป้าหมายการผลิตที่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในสิ้นเดือน ก.ค. นี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงในช่วงเทศกาลวันหยุดในภูมิภาคเอเชีย อย่างไรก็ตาม อุปทานปรับตัวลดลงจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในเอเชียที่ปรับลดลงในช่วงเทศกาลรอมฎรที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตัวเลขการส่งออกน้ำมันดีเซลของประเทศจีนในเดือน พ.ค. 60 ยังคงใกล้เคียงกับเดือน เม.ย. 60 อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้ในภูมิภาคเอเชียต่อเนื่อง
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 42-47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 44-49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ตลาดยังคงกังวลกับการปรับเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรียและลิเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับการยเว้นจากข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต โดยล่าสุด หลังท่อขนส่งน้ำมันดิบ Trans Forcados Pipeline กลับมาดำเนินการอีกครั้ง ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของไนจีเรียคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเกิน 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดรอบ 17 เดือน และปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนก.ค. ราว 0.18 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.885 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนก.ค.
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับลดลง จากอัตราการกลั่นของโรงกลั่นในสหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับ ความต้องการใช้น้ำมันในช่วงฤดูร้อนที่ปรับเพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางโดยเฉพาะ ซาอุดิอาระเบีย ที่จะทำให้ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียมาสู่สหรัฐฯ ปรับลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 509.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลงราว 2.1 ล้านบาร์เรล
จับตาท่าทีของผู้ผลิตน้ำมันดิบเกี่ยวกับมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หลังอิหร่านให้ความเห็นว่ากลุ่มโอเปกอาจพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตมากกว่า 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้