- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 26 June 2017 22:28
- Hits: 5186
ประเทศไทยพร้อมก้าวสู่การเป็น ‘ศูนย์กลางด้านพลังงานแห่งเอเชีย’ จัดเวทีแสดงเทคโนโลยีด้านพลังงานด้วยความสนับสนุนจากกระทรวงพลังงาน เดือนธันวาคมปีหน้า
คุณธรรมยศ ศรีช่วย รองปลัดกระทรวงพลังงาน (ซ้าย) และมร.คริสโตเฟอร์ ฮัดสัน (ขวา) ประธานบริษัท ดีเอ็มจี อีเว้นท์ โกลบอลล์ เอนเนอร์ยี่
‘การขับเคลื่อนตลาดที่กำลังเติบโตพร้อมก้าวข้ามปี ค.ศ. ๒๐๓๐ อย่างยั่งยืน’ที่งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุม ฟิวเจอร์ เอนเนอร์ยี่ เอเชีย กำหนดจัดขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพมหานคร
นายธรรมยศ ศรีช่วย รองปลัดกระทรวงพลังงาน แถลงเปิดงานแสดงเทคโนโลยีและการประชุม พลังงานเพื่ออนาคตแห่งเอเชีย ‘ฟิวเจอร์ เอนเนอร์ยี่ เอเชีย’ ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญไปสู่ ไทยแลนด์ เอนเนอร์ยี่ ๔.๐ โดยวางการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาประเทศไทยให้เป็นนโยบายหลักที่สำคัญของรัฐบาล ซึ่งจะสร้างโอกาสทางธุรกิจมหาศาลให้แก่บริษัทด้านพลังงาน ทั้งบริษัทแบบบูรณาการและเฉพาะทางจากทั่วโลก จึงทำให้งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุม ‘ฟิวเจอร์ เอนเนอร์ยี่ เอเชีย’ เป็นแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบสำหรับ บริษัทน้ำมันแห่งชาติ (National Oil Companies- NOCs) และบริษัทน้ำมันสากล (International Oil Companies- IOCs) ในการส่งเสริมและพัฒนาการเปลี่ยนแปลงจากการเป็นเพียงผู้ผลิตน้ำมันแบบดั้งเดิมสู่การเป็นผู้จัดหาพลังงานแบบบูรณาการ เพื่อให้เกิดการกำหนดสัดส่วนพลังงานที่มีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืนมากขึ้นในเอเชีย
รายงานจากอินเตอร์เนชั่นแนล เอนเนอร์ยี่ เอเจนซี่ (IEA) ชี้ให้เห็นถึงความต้องการพลังงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๘๐ ในระหว่างปี ๒๕๕๘ – ๒๕๘๓ โดยไฮโดรคาร์บอนยังเป็นตัวแปรหลักในการเติบโตจากร้อยละ ๗๔ ในปี ๒๕๕๖ เป็นร้อยละ ๗๘ ในปี ๒๕๘๓ และคาดว่าก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มขึ้นสองในสามในภูมิภาคนี้โดยประเทศไทยยังมีการใช้ก๊าซเป็นแหล่งเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยเห็นได้จากการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงกว่าร้อยละ ๖๐ ของประเทศในวันนี้ ทำให้ IEA คาดว่าการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานในเอเชียจะเพิ่มถึง ๒.๕ ล้านล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ในปี ๒๕๘๓
ฟิวเจอร์ เอนเนอร์ยี่ เอเชีย ภายใต้การสนับสนุนจากกระทรวงพลังงาน จะเป็นการรวมตัวกันของอุตสาหกรรมด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยจะเน้นไปที่อุตสาหกรรมด้านน้ำมัน ก๊าซ และพลังงานทดแทน และเป็นเวทีจัดแสดงที่นำเอาการผสมผสานของพลังงานหลายประเภทและเทคโนโลยีที่มีความสมบูรณ์แบบ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ และสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ งานจะจัดขึ้นในวันที่ ๑๒-๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ด้วยจำนวนผู้เยี่ยมชมงานกว่า ๑๕,๐๐๐ คน ผู้เข้าร่วมประชุมกว่า ๒,๕๐๐ คน ผู้บรรยายและวิทยากรกว่า ๓๐๐ ท่าน และบริษัทผู้ร่วมออกงานมากกว่า ๖๐๐ บริษัท โดยมีกระทรวงพลังงานเป็นประธานเปิดงานท่ามกลางผู้ทรงเกียรติในทุกภาคส่วน อาทิ ผู้แทนภาครัฐ ผู้นำด้านอุตสาหกรรมพลังงาน ร่วมกับบริษัท ดีเอ็มจี อีเว้นท์ ผู้จัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ และบริษัท เอ็กซ์โปซิส จำกัด ผู้ร่วมจัดงานที่เชี่ยวชาญจากประเทศไทย
นายธรรมยศ ศรีช่วย กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่จะได้เป็นเจ้าภาพจัดงานฟิวเจอร์ เอนเนอร์ยี่ เอเชีย 2018 และรอต้อนรับผู้แทนองค์กรต่างๆที่จะไปร่วมในงาน เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมด้านพลังงานของโลก การตัดสินใจและความสัมพันธ์ที่จะบังเกิดขึ้น จะช่วยให้เกิดความร่วมมือกันและผลักดันเชิงเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมด้านพลังงานในอนาคตให้เติบโตขึ้นได้ ไทยแลนด์ ๔.๐ หมายถึงโอกาสและการเปลี่ยนแปลงของภาคส่วนพลังงานของประเทศเช่นกัน ในขณะที่เรากำลังก้าวเข้าสู่โลกที่ไร้คาร์บอนเข้าไปทุกที การผลิตและการบริโภคพลังงานจะต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชากรที่เพิ่มจำนวนขึ้น”
“การจัดงานในประเทศไทยครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของประเทศในการส่งเสริมโครงการใหม่ ดึงดูดการลงทุนในภาคส่วนพลังงาน และสื่อสารองค์รวมให้แก่นักลงทุนระดับนานาชาติขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ประเทศเข้าไปอยู่บนแผนที่ของโอกาสแห่งการลงทุน” ท่านรองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวเสริม
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการประชุมเชิงยุทธศาสตร์ระดับรัฐมนตรี ‘พิธีประกาศรางวัลและการมอบทุน’ เพื่อสนับสนุนโครงการงานวิจัยและพัฒนาในด้านพลังงาน และโปรแกรมกิจกรรมทางสังคม ในทุกวันที่จัดแสดงเพื่อส่งเสริมการสร้างเครือข่ายกับเพื่อนร่วมอาชีพ พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้องหลักในภาคส่วนพลังงาน
มร. คริสโตเฟอร์ ฮัดสัน ประธานบริษัท ดีเอ็มจี อีเว้นท์ โกลบอลล์ เอนเนอร์ยี่ บริษัทผู้จัดงาน ‘ฟิวเจอร์ เอนเนอร์ยี่ เอเชีย’ ได้เป็นผู้นำเสนอแผนงานของการจัดงานนี้ อธิบายว่า “งานแสดงฯและการประชุมที่จะจัดขึ้นตลอด ๓ วันนี้ จะเน้นไปที่พลังงานอนาคตที่ก้าวหน้า การจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีสะอาด จากการตอบรับอย่างดีของงานระดับโลกที่จัดขึ้นโดยบริษัท ดีเอ็มจี อาทิ งานอดิเปค (ADIPEC) และแก็สเทค (Gastech) จึงเชื่อว่างานที่จะเกิดขึ้นนี้จะเป็นสถานที่พบปะที่จะได้รับความสนใจมากที่สุดของผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม ซึ่งจะมาพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสัมผัสกับสถานการณ์และโซลูชั่นของพลังงานแห่งอนาคตที่เกี่ยวเนื่องกับนโยบายด้านพลังงานระยะยาวของโลก แน่นอน ประเทศไทยเป็นตลาดที่กำลังเติบโตด้วยโอกาสมหาศาล และงานนี้ถือว่าเป็นโอกาสครั้งแรกสำหรับทุกภาคส่วนที่จะได้มาอยู่ร่วมกันและสร้างแบบแผนสำหรับความมั่นคงด้านพลังงานแห่งอนาคตของเอเชีย ทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสแก่ผู้ซื้อและผู้ขายจากทั่วโลกได้มานำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการภายในงานแสดง รวมถึงการประชุมเชิงวิชาการสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานของโลกในการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ และความท้าทายของตลาดเอเชียที่น่าตื่นใจ”
“บริษัทฯ รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งต่อการสนับสนุนและความเข้าใจที่กระทรวงพลังงานมอบให้กับงานนี้ ทำให้เรามั่นใจว่างาน ครั้งปฐมฤกษ์นี้ จะได้รับการตอบรับที่ดี การได้มีโอกาสร่วมงานกับทางกระทรวงพลังงาน จะยิ่งเป็นการเน้นย้ำบทบาทและจุดยืนของประเทศไทยเพื่อนำเสถียรภาพและความมั่นคงด้านพลังงานมาสู่ทุกคน” มร. ฮัดสัน กล่าวเพิ่มเติม
ฟิวเจอร์ เอนเนอร์ยี่ เอเชีย ยังได้รับการสนับสนุนจาก ทีเส็บ โดยนางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ ทีเส็บ กล่าวว่า “เราในฐานะองค์กรของรัฐบาลที่ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทย รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในการสนับสนุนการจัดงาน ฟิวเจอร์ เอนเนอร์ยี่ เอเชีย 2018 และต้องขอขอบคุณบริษัท ดีเอ็มจี อีเว้นท์ สำหรับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในการเลือกประเทศไทยให้เป็นเวทีจัดงานแสดงเทคโนโลยีนี้เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ งานแสดงสินค้าของประเทศไทยเป็นที่ยอมรับว่ามีศักยภาพสูง ทั้งยังเป็นประตูสู่โอกาสทางธุรกิจทั้งในภูมิภาคอาเซียน เอเชีย และทั่วโลก ด้วยทำเลที่ตั้งของประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศอาเซียน ความสะดวกในการทำธุรกิจ เครือข่ายที่เข้มแข็งของทีเส็บทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ รวมถึงนโยบายด้านพลังงานของรัฐบาลไทยที่ชัดเจน เราเชื่อมั่นว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของการจัดเวที ฟิวเจอร์ เอนเนอร์ยี่ เอเชีย ในประเทศไทยในครั้งนี้ และงานนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการเชื่อมโยงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดในด้านการพัฒนาภาคพลังงานของอาเซียนอีกด้วย”