- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 26 June 2017 22:03
- Hits: 5181
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวลง
+ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวลงร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุมาจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้และส่งผลให้มีความกังวลต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในสหรัฐฯ
-อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 10 เดือน เนื่องจากความกังวลต่อปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มมากขึ้นและล้นตลาด ถึงแม้ว่ากลุ่มสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกได้ประกาศลดลงกำลังผลิต 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันแล้วก็ตาม ทั้งนี้ปริมาณน้ำมันดิบที่เพิ่มมากขึ้นมาจากสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศโอเปกที่ได้รับการยกเว้นเช่น ลิเบียและไนจีเรีย
- Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ ณ วันที่ 23 มิ.ย. มีจำนวนเพิ่มขึ้น 11 แท่น มาอยู่ที่ทั้งหมด 758 แท่น ซึ่งเป็นจำนวนแท่นที่มากที่สุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 2558 และเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีที่มาที่มีจำนวนแท่นขุดเจาะอยู่เพียงแค่ 330 ด้วยกัน โดยผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ มีความเชื่อมั่นว่าราคาน้ำมันดินดิบจะปรับเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้มีจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม อุปสงค์น้ำมันเบนซินยังคงอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับโรงกลั่นต่างๆ ได้ปรับเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากยังคงมีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชีย ขณะที่อุปทานตึงตัวจากการที่โรงกลั่นปิดซ่อมบำรุง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 42-47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 44-49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ตลาดยังคงกังวลกับการปรับเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรียและลิเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับการยเว้นจากข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต โดยล่าสุด หลังท่อขนส่งน้ำมันดิบ Trans Forcados Pipeline กลับมาดำเนินการอีกครั้ง ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของไนจีเรียคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเกิน 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดรอบ 17 เดือน และปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนก.ค. ราว 0.18 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.885 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนก.ค.
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับลดลง จากอัตราการกลั่นของโรงกลั่นในสหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับ ความต้องการใช้น้ำมันในช่วงฤดูร้อนที่ปรับเพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางโดยเฉพาะ ซาอุดิอาระเบีย ที่จะทำให้ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียมาสู่สหรัฐฯ ปรับลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 509.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลงราว 2.1 ล้านบาร์เรล
จับตาท่าทีของผู้ผลิตน้ำมันดิบเกี่ยวกับมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หลังอิหร่านให้ความเห็นว่ากลุ่มโอเปกอาจพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตมากกว่า 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
