- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 13 May 2014 23:37
- Hits: 3615
'ปิยสวัสดิ์' เสนอ 3 กฟฟ.เข้า ก.พลังงาน
บ้านเมือง : นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังเปิดตัวกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืนว่า ข้อเสนอของกลุ่มในการปรับโครงสร้างราคาพลังงานเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่นการปรับเพิ่มราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล และลดราคาน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงมากยิ่งขึ้น ปรับขึ้นราคาขายปลีก LPG ที่ใช้ในภาคขนส่งและก๊าซ NGV ให้สะท้อนต้นทุนจริง และเก็บภาษีสรรพสามิตด้วย
ทั้งนี้ ส่วนในด้านการเพิ่มการแข่งขันและประสิทธิภาพในธุรกิจพลังงาน ควรที่จะให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ลดการถือหุ้นในกิจการโรงกลั่นหลายโรง โดยให้ ปตท.ขายหุ้นในโรงกลั่นบางจาก และโรงกลั่น SPRC ออกไป แยกกิจการท่อส่งก๊าซธรรมชาติออกจาก บมจ.ปตท.เพื่อความโปร่งใส ปรับปรุงบทบาทการทำงานของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้มีความเข้มแข็งในการคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งควรโอนการไฟฟ้าทั้ง 3 ฝ่าย ทั้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เข้าสังกัดกระทรวงพลังงาน เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการ กำกับนโยบายให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
ดังนั้น การนำเสนอแนวทางปฏิรูปของกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืนในครั้งนี้ อยู่บนพื้นฐานข้อมูลจริง ประกอบด้วย 3 แนวทางหลัก 6 ข้อเสนอการปฏิรูปพลังงาน คือ ปรับโครงสร้างราคาพลังงานประเภทต่างๆ ให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพื่อให้เกิดการใช้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ใช้พลังงานกลุ่มต่างๆ เพิ่มการแข่งขันและประสิทธิภาพในธุรกิจพลังงาน และลดการแทรกแซงโดยมิชอบทางการเมือง เพื่อการปฏิรูป ปตท. ป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนของเจ้าหน้าที่รัฐ จัดให้มีการปรับปรุงกระบวนการในการกำหนดนโยบาย เร่งสำรวจพัฒนาและจัดหาแหล่งพลังงานเชื้อเพลิง และส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานหมุนเวียน เพื่อขจัดอุปสรรค ลดความซ้ำซ้อน
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวว่า การปฏิรูปโครงสร้างราคาพลังงานอันดับแรก ควรปรับปรุงในส่วนของภาษีสรรพสามิต เพราะปัจจุบันโครงสร้างภาษีมีปัญหาจากการไม่เรียกเก็บภาษีสำหรับน้ำมันดีเซล หรือเก็บเพียง 0.50 สตางค์ ดังนั้น จากนี้ควรศึกษาว่า การเรียกเก็บภาษีน้ำมันดีเซลควรจะเรียกเก็บในอัตราเท่าใด ถึงจะเหมาะสม เกิดความเป็นธรรม และควรค่อยเป็นค่อยไป เพราะหากกลับไปเก็บในอัตราเดิมที่ราว 5 บาท จะทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ขณะที่การปรับราคาก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนได้ดำเนินการแล้ว แต่ภาคขนส่งที่กำหนดไว้ขณะนี้ที่ 21.38 บาท และไม่สามารถปรับขึ้นพร้อมภาคครัวเรือน คงต้องรอรัฐบาลใหม่มาพิจารณา และควรเร่งปรับขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการลักลอบใช้ก๊าซผิดประเภท
