- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 14 June 2017 18:48
- Hits: 1808
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังการปรับตัวลดลงของการผลิตในกลุ่มโอเปก และลดปริมาณการส่งออกของซาอุดิอาระเบีย
+ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีแรงหนุนจากการลดปริมาณการส่งออกของซาอุดิอาระเบีย และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
+ ซาอุดิอาระเบีย ประเทศส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ ได้ปรับลดปริมาณการส่งออกในเดือนกรกฏาคมกับผู้ซื้อบางรายในประเทศจีน อินเดีย และเกาหลีใต้ รวมเป็นปริมาณน้ำมันดิบทั้งสิ้นกว่า 300,000 บาร์เรลต่อวัน และปรับลดปริมาณการส่งมอบน้ำมันดิบไปยังสหรัฐฯ เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การลดปริมาณการส่งออกดังกล่าวอาจเป็นผลมาจากปริมาณความต้องการใช้เชื้อเพลิงสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนที่เพิ่มขึ้นภายในประเทศ
+/- นอกจากนี้ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบส่วนใหญ่ปรับลดกำลังการผลิตลง 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อลดปริมาณน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับสูง จนถึงเดือนมีนาคม 2018 อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเงินทุนที่ไหลเข้ามาเก็งกำไรในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นสัญญาณของกำลังการผลิตที่อาจจะเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต
- อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตามองการผลิตของกลุ่มโอเปกบางประเทศที่มีการเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และการเพิ่มขึ้นของจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังถูกกดดันจากราคา RBOB ในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับมีการส่งออกน้ำมันเบนซินจากยุโรปเข้ามายังภูมิภาคเอเชียมากขึ้น อย่างไรก้ตามราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากประเทศอินเดีย
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ลดลงเนื่องจากเหตุไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันในประเทศสิงคโปร์ แต่ยังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากประเทศจีนอยู่
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังซาอุดิอาระเบีย และชาติพันธมิตรเช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ บาห์เรน และเยเมน ประกาศตัดความสัมพันธ์กับกาตาร์ และตัดการติดต่อทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยกล่าวหาว่ากาตาร์ให้การสนับสนุนกับการก่อการร้าย ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้นักวิเคราะห์กังวลว่าความสัมพันธ์ของสมาชิกของกลุ่มโอเปกจะเปราะบางมากยิ่งขึ้น และอาจกระทบต่อความร่วมมือเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันของกลุ่มโอเปก
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับลดลง เนื่องจากคาดการณ์ว่าโรงกลั่นในประเทศจะปรับเพิ่มอัตราการกลั่นจากสัปดาห์ก่อนหน้า ประกอบกับ ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบคาดว่าจะปรับลดลง โดยเฉพาะจากซาอุดิอาระเบียซึ่งต้องการสำรองน้ำมันดิบไว้ใช้สำหรับช่วงฤดูร้อน อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 2 มิ.ย. 2560 รายงานโดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ปรับเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 513.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งสร้างความกังวลว่าอุปทานน้ำมันดิบสหรัฐจะล้นตลาด
ตลาดยังคงกังวลกับความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลง ท่ามกลางความคาดหวังว่าฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐฯ จะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดอุปสงค์น้ำมันเบนซินในระยะเวลา 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลงราวร้อยละ 0.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 2 มิ.ย. 2560 ปรับตัวขึ้นราว 12.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 833.3 ล้านบาร์เรล