- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 09 June 2017 17:08
- Hits: 13062
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่อง หลังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ หลังตลาดยังได้รับอิทธิพลจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ที่ประกาศตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลขึ้นมาแตะที่ระดับ 513 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวลดลง 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- นอกจากนี้ ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากประเทศไนจีเรียที่ปรับเพิ่มขึ้นยังคงกดดันราคาน้ำมันดิบ หลังมีการส่งออกน้ำมันดิบจากแหล่ง Forcados ในประเทศไนจีเรีย ซึ่งส่งผลทำให้ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบทั้งประเทศปรับเพิ่มขึ้น 200,000 - 240,000 บาร์เรล มาแตะระดับ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ลงไปแตะที่ระดับ 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+ ตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งสหภาพยุโรปปรับตัวดีขึ้น หลังดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกของปี 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับร้อยละ 1.7 และนับเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดในรอบ 2 ปี หลังได้รับปัจจัยหนุนจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณสต็อกน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงหนุนจากความขัดแย้งระหว่างกาตาร์และชาติอาหรับซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมันในภูมิภาค
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากภูมิภาคเอเชียใต้และแอฟริกา ประกอบกับความขัดแย้งระหว่างกาตาร์และชาติอาหรับซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมันในภูมิภาค
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังซาอุดิอาระเบีย และชาติพันธมิตรเช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ บาห์เรน และเยเมน ประกาศตัดความสัมพันธ์กับกาตาร์ และตัดการติดต่อทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยกล่าวหาว่ากาตาร์ให้การสนับสนุนกับการก่อการร้าย ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้นักวิเคราะห์กังวลว่าความสัมพันธ์ของสมาชิกของกลุ่มโอเปกจะเปราะบางมากยิ่งขึ้น และอาจกระทบต่อความร่วมมือเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันของกลุ่มโอเปก
กำลังการผลิตน้ำมันดิบในลิเบียคาดว่าจะปรับลดลง หลังแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Sharara ซึ่งก่อนหน้านี้ผลิตน้ำมันดิบราว 269,000 บาร์เรลต่อวัน ต้องปิดตัวลงชั่วคราว เนื่องจากมีเหตุการณ์ชุมนุมประท้วง ซึ่งอาจส่งผลให้กำลังการผลิตของลิเบียซึ่ง ผลิตอยู่ราว 835,000 บาร์เรลต่อวัน อาจปรับลดลงราวหนึ่งในสาม
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะอยู่ในระดับสูง หลังโรงกลั่นในประเทศปรับลดอัตราการกลั่นลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า ประกอบกับ ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะจากอิรัก และ แคนาดา ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 2 มิ.ย. 2560 รายงานโดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ปรับเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 513.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ยอดค้าปลีกจีน และ ดัชนีราคาผู้บริโภคยูโรโซน