- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 29 May 2017 12:33
- Hits: 4841
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม ตอบรับการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปก
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกบรรลุข้อตกลงในการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไป 9 เดือน จากข้อกำหนดเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือน มิ.ย. 60 นี้ เพื่อให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง (OECD Commercial Inventory) ปรับลดลงจากระดับ 3,000 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ระดับ 2,700 ล้านบาร์เรล
- อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบที่ปิด ณ วันสิ้นสุดสัปดาห์อยู่ในระดับต่ำกว่าสัปดาห์ก่อนหน้า เนื่องจากตลาดโดยรวมผิดหวังต่อผลการประชุมของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกที่ขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังผลิตเพียง 9 เดือน น้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ว่ามีโอกาสสูงถึง 1 ปี
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 1/2560 มาอยู่ที่ระดับ 1.2% สูงกว่าระดับที่ประมาณการที่ 0.7% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 0.9% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลัก ได้แก่ การขยายตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภค การลงทุนภาคธุรกิจ และการใช้จ่ายภาครัฐที่แข็งแกร่ง
- ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ประจำเดือน เม.ย. 60 ปรับตัวลดลง 0.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยการปรับตัวลดลงดังกล่าวนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯ เริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลง
- Baker Hughes รายงาน จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 26 พ.ค. 60 ปรับเพิ่มขึ้น 2 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 722 แท่น โดยนับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 19 เนื่องจากตลาดมีการคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบอาจมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตอบรับการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเล็กน้อย จากแรงหนุนของอุปสงค์ที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลถือศีลอด ประกอบกับอุปสงค์ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาดน้ำมันเบนซินในเอเชียยังคงถูกกดดันจากอุปทานที่ปรับเพิ่มขึ้นจากยุโรป
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงกดดันของปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง มาอยู่ที่ระดับ 14.38 ล้านบาร์เรล
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากโรงกลั่นในสหรัฐฯ คงกำลังการกลั่นในอัตราที่สูงต่อเนื่องที่ระดับสูงกว่าร้อยละ 93 เพื่อรองรับความต้องการน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลขับขี่ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 19 พ.ค. 2560 ปรับลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 516.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งนับเป็นการปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน
ปริมาณผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีทิศทางปรับตัวสูงขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาสูงกว่าระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี นับจากเดือน เม.ย. 58 และส่งผลทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มกว่าร้อยละ 10 จากช่วงกลางปีก่อนหน้าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 9.32 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 26 พ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 2 แท่นมาอยู่ที่ 722 แท่น
ภาวะอุปทานโลกล้นตลาดมีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังในการประชุมวันที่ 25 พ.ค. ผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกบรรลุข้อตกลงในการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือนนับจากกำหนดการเดิมที่สิ้นสุด มิ.ย. 60 และคงปริมาณการปรับลดที่ราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม อิหร่าน ลิเบีย และ ไนจีเรียยังคงได้รับการยกเว้นการปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรและเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ