- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 26 May 2017 19:17
- Hits: 10034
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังตลาดผิดหวังต่อมติการประชุมของผู้ผลิตกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC
-/+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่าร้อยละ 5 หลังตลาดผิดหวังต่อผลการประชุมของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกเมื่อวานนี้ที่ขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังผลิตเพียง 9 เดือน น้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ว่ามีโอกาสสูงถึง 1 ปี รวมไปถึงการคงปริมาณการปรับลดไว้ที่ระดับเดิมคือ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+ ผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกบรรลุข้อตกลงในการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไป 9 เดือน จากข้อกำหนดเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือน มิ.ย. นี้ เพื่อให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง (OECD Commercial Inventory) ปรับลดลงจากระดับ 3,000 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ระดับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ระดับ 2,700 ล้านบาร์เรล โดย อิหร่าน ลิเบีย และไนจีเรีย ยังคงได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจาก ลิเบียและไนจีเรียเผชิญกับสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณการผลิตของทั้งสองประเทศยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตมาก โดยโอเปกจะมีการประชุมครั้งถัดไปในเดือน พ.ย.
+ ซาอุดิอาระเบียคาดปริมาณการส่งออกของประเทศจะปรับลดลงอย่างมากนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. เป็นต้นไป และจะช่วยส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังปรับลดลงอย่างต่อเนื่องและจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไตรมาส 4
- นักวิเคราะห์ยังคงกังวลว่าการปรับลดกำลังการผลิตยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดคลี่คลายในเร็วนี้ หลังราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มปริมาณการขุดเจาะขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีและปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 จากระดับต่ำสุดมาอยู่ที่ 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังผู้ผลิตในสหรัฐฯ ปรับลดต้นทุนการผลิตลงจนสามารถแข่งขันได้ที่ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเล็กน้อย หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและเพียงพอต่ออุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากอินโดนีเซีย พม่า และเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของอินเดียและแอฟริกาตะวันออกที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงกดดันปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่งที่ระดับ 14.384 ล้านบาร์เรล
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากโรงกลั่นในสหรัฐฯ คงกำลังการกลั่นในอัตราที่สูงต่อเนื่องที่ระดับสูงกว่าร้อยละ 93 เพื่อรองรับความต้องการน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลขับขี่ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 19 พ.ค. 2560 ปรับลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 516.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งนับเป็นการปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน
ปริมาณผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีทิศทางปรับตัวสูงขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาสูงกว่าระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี นับจากเดือน เม.ย. 58 และส่งผลทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มกว่าร้อยละ 10 จากช่วงกลางปีก่อนหน้าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 9.32 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 19 พ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 8 แท่นมาอยู่ที่ 720 แท่น
ภาวะอุปทานโลกล้นตลาดมีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังในการประชุมวันที่ 25 พ.ค. ผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกบรรลุข้อตกลงในการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือนนับจากกำหนดการเดิมที่สิ้นสุด มิ.ย. 60 และคงปริมาณการปรับลดที่ราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม อิหร่าน ลิเบีย และ ไนจีเรียยังคงได้รับการยกเว้นการปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรและเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ