- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 23 May 2017 23:00
- Hits: 8345
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อเนื่อง หลังซาอุดิอาระเบียและอิรักตกลงที่จะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่ออีก 9 เดือน
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ในกลุ่มโอเปก ได้เดินทางไปยังเมืองแบกแดด ประเทศอิรัก ในวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อโน้มน้าวให้อิรักขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน โดยผลการหารือเป็นไปในทางบวก ซึ่งทั้งสองประเทศต้องการลดปริมาณน้ำมันดิบส่วนเกินในตลาดซึ่งจะช่วยผลักดันให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น โดยการเดินทางครั้งนี้นับเป็นการเยือนอิรักครั้งแรกในรอบ 30 ปี ของผู้นำซาอุดิอาระเบีย
+ โดยก่อนหน้าที่ซาอุดิอาระเบียจะไปเยือนอิรัก ได้มีการหารือกับรัสเซียโดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบออกไปอีก 9 เดือนจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2561
+ ตลาดยังคงได้รับแรงหนุน จากการคาดการณ์ว่าข้อตกลงขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกจะบรรลุผลในการประชุมที่ใกล้จะเข้ามาถึงในวันที่ 25 พ.ค. นี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบจะปรับลดลงอยู่ที่ระดับ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะขยายระยะเวลาการปรับลดไปอีก 6 หรือ 9 เดือน นับเริ่มจากเดือน ก.ค. 60
- อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคงกังวลเกี่ยวกับอุปทานจากสหรัฐฯ ที่กำลังการผลิตน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 หรือเกือบ 900,000 บาร์เรลต่อวัน นับตั้งแต่กลางปี 2559 ไปแตะที่ระดับ 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+/- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอินเดีย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปก รวมทั้งแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น เป็นแรงผลักดันให้อินเดียพิจารณาที่จะนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ และแคนาดา และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงสนับสนุนจากตลาดน้ำมันเบนซินฝั่งสหรัฐฯ ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ อุปสงค์จากประเทศอินโดนีเซียที่ปรับเพิ่มขึ้นยังช่วยหนุนตลาดอีกแรง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อของประเทศอินเดียที่ปรับเพิ่มขึ้นซึ่งช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับอุปทานส่วนเกินในภูมิภาค ประกอบกับอุปสงค์ทางฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังคงทรงตัว
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาประชุมของผู้ผลิตทั้งในกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 24 – 25 พ.ค. ว่าจะมีการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกจากเดิมหรือไม่ หลังซาอุดิอาระเบียและรัสเซียสนับสนุนให้ขยายระยะเวลาของข้อตกลงออกไปอีก 9 เดือนจนถึง มี.ค. 61 จากเดิมที่สิ้นสุดในเดือน มิ.ย. 60 เพื่อให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังส่วนเกินปรับลดลงมาสู่ระดับสมดุลที่ระดับค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปี และเพื่อให้ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้ ประเทศอื่นในกลุ่มโอเปกได้แก่ คูเวต อิหร่าน และเวเนซุเอลา ได้กล่าวสนับสนุนต่อข้อตกลงดังกล่าวเช่นกัน
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลง หลังโรงกลั่นในสหรัฐฯ เพิ่มกำลังการกลั่นขึ้นมาสู่สูงสุดในรอบ 5 ปีสำหรับช่วงเวลานี้ที่ร้อยละ 93.4 เพื่อรองรับความต้องการน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐฯ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 12 พ.ค. 2560 ปรับลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 520.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งนับเป็นการปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน
ตลาดยังคงกังวลกับการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น จากการเปิดดำเนินการของแหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Sharara และ El Feel ส่งผลให้กำลังการผลิตของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 800,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วงสิ้นเดือน เม.ย. 60 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557 นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตของลิเบียคาดจะปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเร็วนี้และคาดจะปรับขึ้นมาอยู่ระหว่าง 1.1 – 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากสามารถแก้ไขสถานการณ์ขัดแย้งภายในประเทศลงได้