- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 15 August 2014 06:51
- Hits: 2642
บอร์ดกองทุนฯ ไฟเขียวใช้งบฯปี 57 เร่งด่วน 6 โครงการ 2.6 พันลบ.
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ ว่า ที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบให้ใช้งบประมาณจากการขอจบการดำเนินโครงการในปี 2557 มาให้กับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ดำเนินโครงการพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานที่เร่งด่วน ก่อให้เกิดประโยชน์และเป็นรูปธรรม จำนวน 6 ชุดโครงการ จำนวน 2,687 ล้านบาท
อาทิ โครงการต้นแบบการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซชีวภาพจากหลุมฝังกลบขยะขนาดเล็ก ในพื้นที่หน่วยงานของกองทัพบก และกองทัพอากาศ โดยจัดทำโครงการนำร่อง และการบริหารจัดการขยะในชุมชน จากการสำรวจพบว่ามีหน่วยงานภายในกองทัพบกและกองทัพอากาศ ที่เหมาะสมและมีความพร้อมทางด้านพื้นที่ กำลังพลในการบริหารจัดการและศักยภาพด้านปริมาณของขยะ จำนวน 8 หน่วยงาน รวมกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนใช้ในชุมชน ได้ไม่น้อยกว่า 4 เมกะวัตต์
โครงการอนุรักษ์พลังงานและใช้พลังงานทดแทนพื้นที่เสียงภัยในพื้นทื่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบไปด้วย 3 โครงการย่อย คือ (1) โครงการส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานแสงอาทิตย์แบบรถเคลื่อนที่ในฐานปฏิบัติการที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง (2) โครงการพัฒนาระบบแสงสว่างด้วยชุดโคมส่องสว่างแบบแอลอีดี (LED) ประหยัดพลังงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความสว่างในเส้นทางเพื่อความปลอดภัย (3) โครงการติดตั้งเสาไฟพร้อมโคมส่องสว่างแบบโซลาร์เซลล์
โครงการอนุรักษ์พลังงานและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการตามแนวพระราชดำริ เพื่อนำพลังงานทดแทนไปสาธิตใช้งานในพื้นที่โครงการรวม 10 โครงการย่อย อาทิ โครงการก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ ขนาด 30 กิโลวัตต์ โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ สนับสนุนโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามแนวพระราชดำริ จ.เชียงราย และการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ สนับสนุนโครงการจัดตั้งหมู่บ้านชาวไทยภูเขาตามพระราชเสาวนีย์ จ.แม่ฮ่องสอน เป็นต้น
โครงการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และใช้ในหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้แก่ กองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับภารกิจของหน่วยงานความมั่นคง พร้อมกับพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรได้มีประสบการณ์จริง สามารถถ่ายทอดความรู้สู่ภาคประชาชน โดยได้ของบประมาณจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์พร้อมติดตั้งระบบผลิตและการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่จะนำไปใช้เสริมความมั่นคงในพื้นที่ 4 หน่วยงานหลัก จำนวน 33 ระบบ ขนาดกำลังการผลิตรวมไม่น้อยกว่า 10 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าที่ใช้ในหน่วยได้ประมาณ 30-70% ของค่าใช้จ่ายปัจจุบัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้เห็นชอบใช้งบดังกล่าวให้กับ พพ.วงเงิน 20 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการติดตามงานและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการฯ อีกด้วย
“การสนับสนุนโครงการดังกล่าว เป็นการดำเนินโครงการที่สอดคล้องตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 25% ใน 10 ปี (พ.ศ.2555-2563) และยังเป็นการเสริมความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับภารกิจของหน่วยงานความมั่นคง การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และมีประสบการณ์ตรงในการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีพลังงานทดแทน รวมถึงเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐ และภาคประชาชนในพื้นที่ ในการนำความรู้ด้านพลังงานเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น" พล.อ.อุดมเดช กล่าว
อินโฟเควสท์
บอร์ดกองทุนฯ พิจารณางบศึกษาวิจัยพลังงานทดแทน-โครงการอนุรักษ์พลังงาน
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ครั้งที่ 3/2557 กล่าวก่อนประชุมว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการพิจารณาโครงการที่อนุมัติหลักการไปแล้ว 2 โครงการมูลค่า 400 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการให้ทุนศึกษาวิจัยพลังงานทดแทน และโครงการอนุรักษ์พลังงาน โดยจะพิจารณาใช้งบประมาณคงเหลือในกองทุนฯ ที่ค้างจากปี 2556 และ 2557 รวมทั้งโครงการที่หน่วยงานเป็นผู้ถอนออกไปและโครงการยังหาข้อสรุปไม่ได้ เพื่อพิจารณาใช้งบประมาณส่วนที่เหลือดังกล่าวไปใช้ประโยชน์สูงสุดเพื่อประเทศชาติ
ก่อนหน้านี้คณะกรรมการกองทุนฯ เห็นชอบให้สานต่อโครงการด้านการอนุรักษ์พลังงาน 2 โครงการ จาก 23 โครงการของกองทุนฯ ในกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ส่วนโครงการที่เหลือให้ยุติไป ภายหลังคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.) มีมติให้ทบทวน ซึ่งงบประมาณส่วนเหลือของกองทุนฯ ในปีงบประมาณ2557 นั้นจะนำไปใช้เพื่อสนับสนุนส่วนราชการสำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่ที่การให้บริการไฟฟ้ายังไม่เข้าถึง โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้
อินโฟเควสท์