- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 15 May 2017 23:06
- Hits: 1420
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปรับลดลงถึง 5.3 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 522.525 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลด 1.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งการปรับลดกำลังผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้น้ำมันดิบล้นตลาดลงลง
+ ประกอบกับ ซาอุดิอาระเบียออกมาคาดการณ์ว่า ในการประชุมของสมาชิกกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 25 พ.ค. 60 นี้ น่าจะมีการตกลงขยายระยะเวลาการลดกำลังผลิตน้ำมันดิบลงต่อเนื่องจากเดือน มิ.ย. 60 ไปจนถึงสิ้นปี 60 หรือมากกว่านั้น
- Baker Hughes รายงานตัวเลขจำนวนแท่นจุดเจาะในสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ ณ วันที่ 12 พ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 17 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยมีแท่นขุดเจาะเพิ่มขึ้น 9 แท่น และมีแท่นขุดเจาะรวมทั้งหมด 712 แท่น ส่งผลให้สหรัฐฯ มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ตั้งแต่กลางปี 2558 โดยปรับเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับมากกว่า 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับปริมาณกำลังการผลิตของผู้ผลิตที่สูงสุดในโลก เช่น รัสเซียและซาอุดิอาระเบีย
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินยังคงได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในสหรัฐฯ และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ปรับตัวลดลง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ามันดิบดูไบ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันจากทางด้านยุโรปเพิ่มมากขึ้น
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
การขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มเป็นไปได้มากขึ้น หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปกหลายประเทศ รวมถึง ซาอุดิอาระเบีย อิรัก และแอลจีเรียสนับสนุนให้มีการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 นอกจากนี้ ข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 เริ่มเห็นผล หลังสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกในเดือนเม.ย. ปรับลดลง 1.12 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา มาอยู่ที่ระดับ 23.93 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังอัตราการกลั่นยังคงทรงตัวในระดับสูง เพื่อรองรับความต้องการใช้ในช่วงฤดูกาลขับขี่ โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 5 พ.ค. 2560 ปรับลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 522.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
ตลาดยังคงกังวลกับปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น จากการเปิดดำเนินการของแหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Sharara และ El Feel กำลังการผลิตรวมกันราว 420,000 บาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้กำลังการผลิตล่าสุดของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 800,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557 และสูงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาราว 30,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันของลิเบียคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 1.1 – 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากสถานการณ์ภายในประเทศสงบลง