- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 02 May 2017 23:27
- Hits: 9644
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังอุปสงค์ภาคการผลิตในจีนและสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง และอุปทานจากลิเบียปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังภาคการผลิตในสหรัฐฯ และประเทศจีนส่งสัญญาณชะลอตัวในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ในเดือนเม.ย.ปรับตัวลดลงไปแตะระดับ 54.8 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในปีนี้ ในขณะที่ดัชนีภาคการผลิตของประเทศจีนปรับตัวลดลงไปแตะระดับ 51.2 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน
- นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการผลิตของประเทศลิเบียที่เพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 760,000 บาร์เรลต่อวันซึ่งเป็นระดับการผลิตที่สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา หลังได้มีการกลับมาดำเนินการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง Sharara อีกครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ลิเบียได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตให้ถึงระดับ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในเดือน ส.ค. 60 นี้
- Baker Hughes ได้รายงานตัวเลขปริมาณจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น 9 แท่น ขึ้นไปแตะระดับ 697 แท่นซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
+ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 25 พ.ค. 60 ที่จะมีการหารือการขยายระยะเวลาการควบคุมระดับการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มออกไป โดยล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของอิหร่านได้ออกมาเปิดเผยว่า กลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มมีแนวโน้มที่จะเห็นด้วยกับข้อตกลงการขยายระยะเวลาการควบคุมระดับการผลิตน้ำมันดิบออกไป
ราคาน้ำมันเบนซิน ตลาดสิงคโปร์ปิดเนื่องในวันแรงงาน
ราคาน้ำมันดีเซล ตลาดสิงคโปร์ปิดเนื่องในวันแรงงาน
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังโรงกลั่นเพิ่มกำลังการกลั่นอย่างต่อเนื่องมาแตะระดับร้อยละ 94.1 หลังโรงกลั่นในสหรัฐฯ กลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง และเร่งผลิตเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันในช่วงฤดูกาลขับขี่ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 เม.ย. ปรับลดลงราว 3.6 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 528.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับลดลงของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ 3 สัปดาห์ติดต่อกัน
ติดตามความเป็นไปได้ที่จะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก โดยเฉพาะรัสเซียที่ยังมีทีท่าไม่ชัดเจน หลังนาย Alexander Novak รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซีย ยังไม่มีความเห็นว่าควรจะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่ แต่จะหารือกับผู้ผลิตกลุ่มโอเปกในเรื่องดังกล่าวในวันที่ 24 พ.ค. นี้ ก่อนที่จะมีการประชุมระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกเพื่อที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตในวันที่ 25 พ.ค. 2560 นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังเผยอีกว่า รัสเซียอาจเพิ่มกำลังการผลิตสู่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี หากไม่มีการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิต
ตลาดยังคงกังวลกับความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในช่วงฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐฯ ที่อาจน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังล่าสุด EIA รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นราว 3.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงราว 1 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ณ ปัจจุบันยืนอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับในปี 2559 ณ ช่วงเวลาเดียวกัน