- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 28 April 2017 19:28
- Hits: 4611
ราคาน้ำมันดิบปรับลด จากความกังวลต่อปริมาณน้ำมันดิบที่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น และความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่ลดลง
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังลิเบียสามารถกลับมาผลิตน้ำมันดิบและส่งออก ประกอบกับนักลงทุนมีความกังวลในเรื่องของปริมาณการผลิตน้ำมันสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
- นาย Mustafa Sanalla ประธานบริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบีย เผย แหล่งผลิต Sharara and El Feel ที่ผลิตน้ำมันดิบได้ในระดับเฉลี่ย 400,000 บาร์เรลต่อวัน ได้กลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้งหลังจากการสิ้นสุดของกลุ่มผู้ประท้วงปิดท่อส่งน้ำมัน ส่งผลทำให้อาจมีปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในตลาดโลก
- ประกอบกับ ความกังวลเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ที่อาจน้อยกว่าการคาดการณ์ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะมาถึง ทำให้ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังอยู่ในระดับสูงอาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในระยะอันใกล้นี้
- นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ แจ้งว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯยังแตะอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เหตุจากการเพิ่มการผลิตของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดที่ระดับ 9.27 ล้านบาร์เรล
+/- นาย Mohammed Barkindo เลขาธิการกลุ่มโอเปกคาดการณ์อุปทานส่วนเกินน้ำมันดิบโลกมีความคลี่คลายมากขึ้น แต่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังควรจะปรับตัวลดลงมากกว่านี้ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงจากความไม่แน่นอนในเรื่องข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตระหว่างโอเปกและนอกกลุ่มโอเปก ว่าจะมีการขยายช่วงเวลาออกไปหรือไม่ โดยประเทศซาอุดิอาระเบียได้ออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนการขยายช่วงเวลาการปรับลดออกไป เพื่อให้คงเสถียรภาพราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจากได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นของประเทศจีน ประกอบกับความต้องการของประเทศอินโดนีเชียที่ปรับตัวลดลง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเล็กน้อย เนื่องจากยังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันดีเซลของประเทศเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตามยังมีแรงหนุนจากประเทศอินโดนีเชียที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังโรงกลั่นเพิ่มกำลังการกลั่นอย่างต่อเนื่องมาแตะระดับร้อยละ 94.1 หลังโรงกลั่นในสหรัฐฯ กลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง และเร่งผลิตเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันในช่วงฤดูกาลขับขี่ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 เม.ย. ปรับลดลงราว 3.6 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 528.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับลดลงของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ 3 สัปดาห์ติดต่อกัน
ติดตามความเป็นไปได้ที่จะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก โดยเฉพาะรัสเซียที่ยังมีทีท่าไม่ชัดเจน หลังนาย Alexander Novak รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซีย ยังไม่มีความเห็นว่าควรจะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่ แต่จะหารือกับผู้ผลิตกลุ่มโอเปกในเรื่องดังกล่าวในวันที่ 24 พ.ค. นี้ ก่อนที่จะมีการประชุมระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกเพื่อที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตในวันที่ 25 พ.ค. 2560 นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังเผยอีกว่า รัสเซียอาจเพิ่มกำลังการผลิตสู่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี หากไม่มีการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิต
ตลาดยังคงกังวลกับความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในช่วงฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐฯ ที่อาจน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังล่าสุด EIA รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นราว 3.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงราว 1 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ณ ปัจจุบันยืนอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับในปี 2559 ณ ช่วงเวลาเดียวกัน