- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 06 April 2017 12:39
- Hits: 3275
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน หลังจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ลด
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน หลังสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) ได้รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 1.8 ล้านบาร์เรลไปแตะที่ระดับ 533.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลงเพียง 435,000 บาร์เรล โดยมีสาเหตุหลักมาจากกำลังการผลิตของโรงกลั่นสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น 481,000 บาร์เรลต่อวันเพื่อเร่งการผลิตน้ำมันดีเซลชดเชยที่ลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล
+ นอกจากนี้แหล่งน้ำมันดิบ Buzzard ในทะเลเหนือ ที่มีการผลิตอยู่ระดับที่ 180,000 บาร์เรลต่อวัน ได้ปิดซ่อมบำรุงชั่วคราว ทั้งนี้คาดว่าแหล่งน้ำมัน Buzzard จะกลับมาดำเนินการผลิตได้ใหม่ภายในสองวัน
+ แม้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังโดยภาพรวมของโลกยังอยู่ในระดับสูง แต่จากรายงานล่าสุดพบว่า การปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามข้อตกลง และได้ผลลัพธ์ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
+ ยอดค้าปลีกของกลุ่มยูโยโรโซนในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ปรับตัวสูงขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนที่ขยายตัวขึ้น และความสามารถของผู้บริโภคในการใช้จ่ายสินค้า ซึ่งรวมไปถึงน้ำมันด้วยเช่นกัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการนำเข้าน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นจากประเทศอินโดนีเซีย ประกอบกับราคาน้ำมันเบนซิน RBOB ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวในสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดีเซลของประเทศอินโดนีเซียที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงหนุนจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคเอเชียเหนือ
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ติดตามการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก โดยกลุ่มโอเปกยังคงเดินหน้าปรับลดการผลิตลงต่อเนื่อง นำโดยซาอุดิอาระเบียที่ยังคงปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าที่ได้ตกลงไว้เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน นอกจากนี้ อิรักและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้นจากการปิดซ่อมบำรุงแหล่งผลิตน้ำมันดิบ ในขณะที่ ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก การปรับลดกำลังการผลิตคาดจะมีแนวโน้มดีขึ้น หลังรัสเซียคาดจะปรับลดกำลังการผลิตได้ 300,000 ตามข้อตกลงในสิ้นเดือน เม.ย. นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ผลิตกลุ่มโอเปกจะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 หลังปริมาณน้ำมันคงคลังโลกยังคงสูงกว่าระดับค่าเฉลี่ย 5 ปี
จับตาปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบีย หลังเกิดสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศในพื้นที่ฝั่งตะวันตก ส่งผลให้บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC) ต้องหยุดดำเนินการผลิตและประกาศฉุกเฉิน (Force Majeure) ในแหล่งน้ำมันดิบ El Sharara และ Wafa ทำให้กำลังการผลิตของลิเบียปรับลดลงกว่า 250,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่ระดับ 700,000 บาร์เรลต่อวัน และยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจนว่าจะสามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้เมื่อใด
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังการนำเข้าและการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อัตราการเพิ่มขึ้นคาดจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงหลังโรงกลั่นกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงและเพิ่มกำลังการกลั่นสูงขึ้นเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 24 มี.ค. 60 ปรับเพิ่มขึ้น 0.8 ล้านบาร์เรล มาสู่ระดับ 534 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.4 ล้านบาร์เรล