- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 12 August 2014 23:42
- Hits: 2629
เล็งศึกษาจากมาเลเซียเพื่อลดราคาน้ำมันดีเซล-ลดค่าแอดเดอร์โซลาร์เซลล์ หันพึ่งถ่านหิน-น้ำผลิตไฟฟ้า
แนวหน้า : ปลัดพลังาน เผยกลางเวทีเสวนา ต้องจริงจังแผนการลดพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ ในการผลิตไฟฟ้า เล็งเป้าใหม่ ที่ถ่านหิน และพลังงานน้ำ พร้อมทั้งพยายามเพิ่มสุดส่วนพลังงานทดแทน ที่ตอนนี้ยังต่ำเนื่องจากติดปัญหาเรื่องการใช้ทรัพยากรในประเทศ นักวิชาการ แนะวีทำให้เบนซินราคาลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจจัดสัมมนาเรื่อง’วิกฤติความเสี่ยงพลังงานกับอนาคตการพัฒนาเศรษฐกิจไทย’ โดยมีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษ'นโยบายความมั่นคงด้านพลังงานไทย'
ทั้งนี้ นายอารีพงส์ ได้กล่าวในการแสดงปาฐกถา ว่า กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอ กพช.สัปดาห์หน้า พิจารณากรอบการจัดทำแผนพีดีพีในช่วง 20 ปีข้างหน้า หรือปี 2558-2578 และคาดว่าการจัดทำแผนจะเสร็จและเสนอให้ กพช.พิจารณาได้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า หรือประมาณเดือนตุลาคมนี้ ตั้งเป้าลดพึ่งพาก๊าซธรรมชาติลงให้ได้มากที่สุด อัตราการเพิ่มการใช้พลังงานจะลดลงจากปัจจุบันเพิ่ม 3 % ต่อปีให้ได้มากที่สุด โดยจะเน้นไปใช้พลังงานสีเขียวให้มากที่สุด เลือกต้นทุนต่ำที่สุดเพื่อสัดส่วนพลังงานทดแทนให้ได้ 25 % จากที่ปัจจุบันยังทำไม่ได้ในระดับดังกล่าว เพราะเป็นการใช้ทรัพยากรในประเทศไม่ต้องนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ แต่ในเชิงบริหารต้องเลือกแหล่งพลังงานที่ถูกที่สุด ซึ่งได้แก่ ไบโอแมส และไบโอแก๊ส แต่การพัฒนาจะต้องมีทิศทางและมีพื้นที่ที่ชัดเจน
ทั้งนี้ แต่ละปีประเทศไทยต้องนำเข้าพลังงาน คิดเป็น 80 % ของการใช้พลังงานทั้งประเทศที่คิดเป็นมูลค่าสูงถึงปีละ 1.4 ล้านล้านบาท ในเชิงเศรษฐกิจต้องบริหารอัตราการเติบโตการนำเข้าให้เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดจากปกติเติบโต 3 % ต่อปี
สำหรับ แผนพีดีพีใหม่จะลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติลงจากปัจจุบันการผลิตกระแสไฟฟ้าของไทย 70 % ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง จึงมีความเสี่ยงสูงจะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานอื่น เช่น ถ่านหินสะอาด และการผลิตไฟฟ้าจากน้ำ โดยจะหารือกับผู้นำรัฐบาลเมียนมาร์ ที่ขณะนี้ต้องการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มะริด ซึ่งประเทศไทยจะซื้อกระแสไฟฟ้าเข้ามาใช้ในภาคใต้ที่ยังขาดแคลน ขณะที่ภาคใต้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้เข้าประเทศปีละ 2 ล้านล้านบาท
ส่วนราคาน้ำมันดีเซล พบว่าน้ำมันดีเซลไทยราคาอยู่ที่ 29.85 บาทต่อลิตร แม้ต่ำกว่าชาติอื่น แต่ก็สูงกว่ามาเลเซียมีราคาต่ำกว่า 20.50 บาทต่อลิตร เนื่องจากรัฐบาลมาเลเซียอุดหนุน ซึ่งราคาน้ำมันระดับนี้ประเทศไทยจะรักษาเอาไว้ได้หรือไม่ ซึ่งจะพิจารณาโมเดลมาเลเซียบางจุดจะนำมาใช้ในไทยได้อย่างไร และราคาน้ำมันดีเซลของไทยที่ต่ำเพราะให้ผู้ใช้น้ำมันเบนซินมา และน้ำมันดีเซลขณะนี้รถยนต์ราคาแพงก็ใช้เติมอยู่ เรื่องนี้จะต้องพิจารณาต่อไป
สำหรับ การผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์ ที่ผ่านมาได้รับอนุมัติไปแล้ว 3,000 เมกะวัตต์ แต่เรื่องค่าแอดเดอร์ยังเห็นว่าอยู่ในระดับที่สูงไป การเดินหน้าในโครงการใหม่ที่ได้รับอนุมัติโครงการจะเกิดขึ้น แต่แอดเดอร์ไม่ใช่อัตราเดิมอีกต่อไป คิดจากการต้นทุนการลงทุนในปัจจุบันที่ราคาแผงโซลาร์เซลล์ปรับลดลงแล้ว ทั้งนี้จะกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน และเมื่อแผงโซลาร์เซลล์หมดอายุ ผู้ทำต้องรับผิดชอบโดยต้องไม่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการกำจัดขยะชุมชน และขยะอุตสาหกรรม จะมีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่เน้นให้ความสำคัญมาก โดยภายในสัปดาห์หน้าจะอนุมัติออกมาอีกจำนวนมากหลายโครงการ ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ อย่างไรก็ตาม ยังนับเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับภาพรวมของประเทศ ทั้งนี้ ขยะอุตสาหกรรมในภาพรวมปัจจุบันยังเข้าระบบไม่ถึงครึ่ง หากสามารถคัดแยกออกมาจะสามารถนำมาเป็นเชื้อเพลิงช่วยลดการนำเข้าพลังงานลดของเสียจากการผลิตได้ ซึ่งกระทรวงพลังงานยินดีให้แอดเดอร์ เพราะจะได้สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นด้วย
นายอารีพงศ์ กล่างถึงการปรับโครงสร้างพลังงานว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สำหรับภาพรวมจะพบว่าเอ็นจีวีภาคขนส่งยังเป็นการจำหน่ายราคาต่ำกว่าต้นทุนจริง ซึ่งจะปรับเปลี่ยนอย่างไรต้องรอผลการพิจารณา ส่วนสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุดยังคงติดลบ 9,000 ล้านบาท การที่ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลงส่งผลให้ขณะนี้มีเงินไหลเข้ากลับเข้ามากองทุนฯ เดือนละ 2,700 ล้านบาท คาดว่ากองทุนน้ำมันฯ จะสมดุลเร็ว ๆ นี้
“ในช่วงนี้ราคาพลังงานภาพรวมจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงยกเว้นกลุ่มเบนซินที่อาจจะเห็นมีการปรับลดลงบ้างตามทิศทางตลาดโลก การเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนของกลุ่มเบนซินนั้นอาจจะลดลงบ้างแต่อาจลดไม่ได้มากเพราะถูกจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีฐานะติดลบเกือบ 9,000 ล้านบาทซึ่งเป็นการนำเงินมาชดเชยข้ามกลุ่มให้ผู้ใช้ โดยส่วนหนึ่งก็เพื่อตรึงดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรและแอลพีจีและเอ็นจีวีก็ยังคงขายต่ำกว่าราคาต้นทุน ซึ่งยอมรับว่ากลุ่มคนใช้เบนซินนั้นมีผู้ใช้รถจักรยานยนต์ถึง 20 ล้านคันคนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นคนรวยอะไรแต่การจ่ายแพงก็ต้องมาดูโครงสร้างให้รอบด้านทั้งดูแลค่าขนส่ง และสิ่งสำคัญต้องให้เข้าใจตรงกันว่าที่สุดต้องไปสู่ราคาตลาดโลกแต่การบริหารจะทำอย่างไรให้ไม่กระทบด้วย”นายอารีพงศ์กล่าว
สำหรับ การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)วันที่ 15 ส.ค.นี้จะเสนอกรอบการจัดทำแผนพัฒนาพลังงานในช่วง 20 ปีข้างหน้า หรือ?แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ(Power Development Plan –PDP) ปี ค.ศ.2015 ถึงปี ค.ศ.?2035 และคาดว่าการจัดทำแผนจะแล้วเสร็จและเสนอให้ กพช.พิจารณาได้ใน อีก 3 เดือนข้างหน้าหรือประมาณเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ตั้งเป้าลดพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติลง
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า จะเสนอต่อคสช.ให้พิจารณาปรับโครงสร้างราคาพลังงานควรคำนึงถึงประสิทธิภาพการใช้ซึ่งขณะนี้ราคาดีเซลที่รัฐเก็บภาษีสรรพสามิตต่ำเพียง 0.005 บาทต่อลิตรเท่านั้นแต่ราคาเบนซินและแก๊สโซฮอล์กลับสูงดังนั้นจึงควรปรับขึ้นภาษีฯดีเซลเป็น 4 บาทต่อลิตร เบนซิน 95 จากเก็บ 7 บาทต่อลิตรเหลือ 4 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 จาก 6.30 บาทต่อลิตรเหลือ 3.60 บาทต่อลิตร อี 20 จาก 5.60 บาทต่อลิตรเหลือ 3.20 บาทต่อลิตร และอี 85 จาก 1.05 บาทต่อลิตรเหลือ 0.60 บาทต่อลิตรซึ่งจะทำให้น้ำมันกลุ่มเบนซินปรับราคาลดลงได้
นอกจากนี้ ราคาแอลพีจีหน้าโรงแยกก๊าซควรปรับราคาหน้าโรงแยกก๊าซจากที่ 10.8694 บาทต่อกิโลกรัมทุกกลุ่มในขณะนี้ก็ให้ปรับสูตรนำราคาแอลพีจีนำเข้าถ่วงน้ำหนักราคาต้นทุนโรงแยกก๊าซและราคาน้ำมันเตาโรงกลั่นเทียบเท่ามาคำนวณซึ่งจะทำให้ราคาแอลพีจีต้นทุนโรงแยกฯถูกปรับไปที่ 23.72.88 บาทต่อกก.
นายเจน นำชัยศิริ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า คสช.ควรเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสจากการคืนความสุขให้คนในชาติไม่พอจะต้องให้คืนความรู้ด้านพลังงานที่ถูกต้องไปด้วยเพราะหากปล่อยไว้ก็จะเป็นวิกฤติในระยะยาวได้เนื่องจากขณะนี้ความต้องการใช้พลังงานมีเพิ่มขึ้นแต่การยอมรับที่จะทำให้มีพลังงานเพียงพอและมั่นคงกลับมีน้อยลงไม่ว่าจะสร้างโรงไฟฟ้าใดขณะนี้ถูกต่อต้านหมดและความเข้าใจข้อมูลที่ผิดๆ ก็อาจส่งผลให้การวางแผนพัฒนาเดินไปตามทางที่ผิดด้วย
