- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 08 March 2017 21:55
- Hits: 15126
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงเล็กน้อย หลังอุปทานในสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
(-) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) ได้เปิดเผยข้อมูลคาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 11.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ประมาณห้าเท่า และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเก้าสัปดาห์ติดต่อกัน
(-) นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจาก การคาดการณ์ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ที่คาดว่าระดับการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2561ซึ่งสูงกว่าระดับการผลิตที่สูงที่สุดของสหรัฐฯ ที่ระดับ 9.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2513
(+/-) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของซาอุดิอาระเบียได้เปิดเผยในงานสัมมนาด้านพลังงาน ณ เมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัสในสหรัฐฯ ว่าปัจจัยพื้นฐานของตลาดน้ำมันดิบกำลังปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่นมา แต่ซาอุดิอาระเบียจะสนับสนุนให้กลุ่มโอเปกเข้าแทรกแซงตลาดน้ำมันดิบในช่วงเวลาที่จำเป็นเท่านั้น ทั้งนี้กลุ่มโอเปกมีกำหนดการที่จะประชุมหารือเพื่อยืดระยะเวลาในการลดกำลังการผลิตของกลุ่มต่อไป ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
(+/-) รัสเซียได้ตั้งเป้าหมายที่ลดกำลังการผลิตลงประมาณ 300,000 บาร์เรลต่อวันภายในเดือนเมษายนนี้ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าระดับการผลิตและการส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะกดดันราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นนี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศจีนหลังความต้องการใช้ในช่วงมกราคมปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเล็กน้อย หลังจากได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศศรีลังกา เวียดนาม และมาเลเซีย อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ยังอยู่ในระดับสูง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ51-56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 53-58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
การผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตของกลุ่มโอเปกคาดว่าจะปรับลดลงต่อเนื่องจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอิรักที่จะมีการปิดซ่อมบำรุงของแหล่งผลิตน้ำมันดิบและซาอุดิอาระเบียที่ยังคงกำลังการผลิตอยู่ในระดับต่ำกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยผลสำรวจของสำนักข่าว Reuters คาดในเดือน ก.พ. 60กลุ่มโอเปกจะสามารถปรับลดกำลังการผลิตลงได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 94เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับร้อยละ 93 ของข้อตกลง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะยังคงอยู่ในสูงต่อเนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดิบที่มีแนวโน้มลดลงในช่วงการปิดซ่อมบำรุงตามฤดูกาลของโรงกลั่นตามและปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาสูงกว่าระดับ 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA)รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 24 ก.พ. 60 ปรับเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล มาสู่ระดับสูงสุดในรอบประวัติการณ์ที่ 520.18 ล้านบาร์เรล
จับตาปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียว่าจะปรับลดลงตามที่ได้ตกลงไว้หรือไม่ หลังรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานคาดในเดือน ก.พ. 60 ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียจะทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 11.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่คาดว่าปริมาณการผลิตในเดือน ก.พ. จะปรับลดลงมากกว่าเดือน ม.ค. อย่างไรก็ตาม คาดปริมาณการผลิตจะปรับลดลง 200,000 และ 300,000 บาร์เรลต่อวัน ตามลำดับในเดือน มี.ค.และ เม.ย.60