- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 06 March 2017 17:51
- Hits: 5704
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวล หลังรัสเซียให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตเพียงร้อยละ 3 ของปริมาณการผลิตที่ต้องปรับลงตามที่ได้ทำข้อตกลงกับผู้ผลิตกลุ่มโอเปก
+ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินในตะกร้า เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ จากธนาคารกลางสหรัฐฯที่ส่งสัญญาณว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 มี.ค. 60 ยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่เจ็ด โดยปริมาณแท่นขุดเจาะปรับเพิ่มขึ้น 7 แท่น มาอยู่ที่ 609 แท่น แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 58
- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบประเทศรัสเซีย เดือน ก.พ. 60 ยังคงอยู่ที่ระดับ 11.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน เท่ากับเดือน ม.ค. 60 ซึ่งถือว่ารัสเซียไม่มีการปรับลดเพิ่มเติมจากเดือนก่อนหน้าที่เคยปรับลดลง 100,000 บาร์เรลต่อวันจากระดับการผลิตเดือน ต.ค. 59 และยังต่ำกว่าปริมาณการผลิตที่ต้องปรับลดตามที่ได้ทำข้อตกลงกับผู้ผลิตกลุ่มโอเปกที่ 300,000 บาร์เรลต่อวัน
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 520.18 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อนหน้า โดยปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ติดต่อกัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากยังคงได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อจากเวียดนามและอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันเบนซินยังถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อจากประเทศศรีลังกาและมาเลเซีย นอกจากนี้อุปทานในเอเชียเหนือมีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 51-56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 53-58เ หรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
การผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตของกลุ่มโอเปกคาดว่าจะปรับลดลงต่อเนื่องจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอิรักที่จะมีการปิดซ่อมบำรุงของแหล่งผลิตน้ำมันดิบและซาอุดิอาระเบียที่ยังคงกำลังการผลิตอยู่ในระดับต่ำกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยผลสำรวจของสำนักข่าว Reuters คาดในเดือน ก.พ. 60 กลุ่มโอเปกจะสามารถปรับลดกำลังการผลิตลงได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 94 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับร้อยละ 93 ของข้อตกลง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะยังคงอยู่ในสูงต่อเนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดิบที่มีแนวโน้มลดลงในช่วงการปิดซ่อมบำรุงตามฤดูกาลของโรงกลั่นตามและปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาสูงกว่าระดับ 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 24 ก.พ. 60 ปรับเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล มาสู่ระดับสูงสุดในรอบประวัติการณ์ที่ 520.18 ล้านบาร์เรล
จับตาปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียว่าจะปรับลดลงตามที่ได้ตกลงไว้หรือไม่ หลังรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานคาดในเดือน ก.พ. 60 ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียจะทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 11.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่คาดว่าปริมาณการผลิตในเดือน ก.พ. จะปรับลดลงมากกว่าเดือน ม.ค. อย่างไรก็ตาม คาดปริมาณการผลิตจะปรับลดลง 200,000 และ 300,000 บาร์เรลต่อวัน ตามลำดับในเดือน มี.ค. และ เม.ย. 60