- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 07 February 2017 00:02
- Hits: 11518
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังจากสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่ชาวอิหร่าน 13 คนและองค์กรของอิหร่านทั้งสิ้น 12 แห่งที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบขีปนาวุธ แม้ว่าการคว่ำบาตรรอบใหม่จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อข้อตกลงนิวเคลียร์ (JCPOA) ระหว่างอิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจ แต่ประเด็นดังกล่าวสร้างความกังวลต่อตลาดว่าสหรัฐฯ อาจจะมีการออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมที่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่ออุตสาหกรรมพลังงาน หากอิหร่านยังคงเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธในประเทศ
+ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุน จากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นและส่งผลเชิงบวกต่อความต้องการใช้น้ำมัน หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานการจ้างงาน ในเดือน ม.ค. 60 ปรับเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับการปรับเพิ่มที่สูงสุดในรอบ 4 เดือนและมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 175,000 ตำแหน่ง โดยการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมาจากทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ อย่างไรก็ตาม ค่าจ้างของแรงงานยังคงปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลัง Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สำหรับ สัปดาห์สิ้นสุด 3 ก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 17 แท่นจากสัปดาห์ก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 583 แท่น ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 2 ปีนับตั้งแต่ ต.ค. 58 การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่นำโดยแหล่งผลิตใน Permian
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงหลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับเพิ่มขึ้นกว่า 29.9 ล้านบาร์เรลในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากอุปทานน้ำมันเบนซินที่ปรับลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงตามฤดูกาลของโรงกลั่นในเอเชียเหนือ
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและอุปสงค์ที่เริ่มชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่ปรับลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 51-56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 53-58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
การปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกมีความเป็นไปได้มากขึ้น หลังผลสำรวจของ Reuters รายงานปริมาณการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกในเดือน ม.ค. 60 ปรับลดลงราว 0.958 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 82% เมื่อเทียบกับข้อตกลงปรับลดลงกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับว่าเป็นการปรับลดมากกว่าในอดีตที่สามารถปรับลดได้เพียง 60% ในปี 2552 ในขณะที่ ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกรายใหญ่อย่างรัสเซียปรับลดกำลังการผลิตลงราว 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนม.ค. 60 เมื่อเทียบกับกำลังการผลิตในเดือน ธ.ค. 59 มาสู่ระดับ 11.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน
จับตาสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และ อิหร่านที่อาจช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบ หลังอิหร่านออกมายืนยันว่าได้ทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุด หลังนายโดนัล ทรัมป์ รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการกระทำที่สวนทางกับที่นายโดนัล ทรัมป์ได้กล่าวไว้ในช่วงหาเสียง ว่าจะต่อต้านกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับขีปนาวุธของอิหร่าน นอกจากนี้ อิหร่านยังยืนยันว่าการทดสอบขีปนาวุธนั้นเป็นไปตามแผนของประเทศ และจะไม่ยอมให้ต่างชาติมาแทรกแซง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง จากปริมาณการนำเข้าที่ปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับโรงกลั่นภายในประเทศปรับลดอัตราการกลั่น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 27 ม.ค. 60 ปรับเพิ่มขึ้นราว 6.47 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 494 ล้านบาร์เรล