- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 30 January 2017 16:28
- Hits: 2430
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังปริมาณแท่นขุดเจาะสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังจำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้นักลงทุนต่างกังวลในเรื่องของการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกว่าจะสามารถทำตามข้อตกลงได้หรือไม่
- Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 27 ม.ค. 60 ปรับเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 15 แท่น มาอยู่ที่ 566 แท่น แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 58 นอกจากนี้ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ในปีนี้ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น 320,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 12.8 ล้านบาร์เรล/วัน
- ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบและคอนเดนเสทจากอิหร่านปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากระดับ 2.16 ล้านบาร์เรลในเดือนนี้ มาอยู่ที่ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ก.พ. 60 นอกจากนี้ นักเก็งกำไรยังคาดการณ์ว่า ปริมาณการผลิตจากอิหร่านมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากอิหร่านต้องการที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด หลังพ้นการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป และอาจเป็นเหตุให้ปริมาณการส่งออกจากอิหร่านเพิ่มมากขึ้น
- ปริมาณการผลิตของลิเบียปรับเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ 700,000 บาร์เรลต่อวันอีกครั้ง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคที่แหล่งผลิตน้ำมัน Sarir และเป็นเหตุให้ปริมาณการผลิตในประเทศปรับลดลง 60,000 บาร์เรลต่อวัน
+ CFTC รายงานสถานการณ์การลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดซื้อขาย NYMEX ที่นิวยอร์กและ ICE ที่ลอนดอน ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ม.ค. 60 พบว่าผู้จัดการกองทุนมีปริมาณการถือครองสัญญาน้ำมันดิบสุทธิ (Net Long Position) ปรับเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 420,513 สัญญา ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสองสัปดาห์ติดต่อกัน จากความหวังว่าอุปทานจะตึงตัว จากข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของประเทศอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม อุทานในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากถูกกดดันจากการส่งออกจากประเทศจีนและเกาหลีใต้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการส่งออกจากตะวันออกกลางและอินเดีย อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงหนุนจากความต้องการจากประเทศอินโดนีเซีย
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 52-57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกว่าจะสามารถทำตามข้อตกลงได้หรือไม่ โดยล่าสุดรัฐมนตรีซาอุดิอาระเบียคาดการณ์ว่าปัจจุบันผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกลดกำลังการผลิตลงแล้ว 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือประมาณร้อยละ 80 ของทั้งหมด และคาดว่าจะสามารถทำได้ตามข้อตกลงที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในสิ้นเดือนนี้ นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบล่าสุดของซาอุดิอาระเบียปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันแล้ว ทั้งนี้การประชุมเพื่อติดตามผลของข้อตกลงจะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 17 มี.ค. 2560
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์และส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันลดลง หลังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯหรือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาแต่อย่างใด นโยบายโดยส่วนใหญ่ที่มีการดำเนินการคือนโยบายกีดกันการค้าและการอพยพของแรงงาน
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ยังคงทรงตัวในระดับสูง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ม.ค. 60 ปรับเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล มาสู่ระดับ 488.3 ล้านบาร์เรล จากอัตราการกลั่นที่ปรับลดลงตามอุปสงค์ที่อ่อนตัวลง และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้น