- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 19 January 2017 20:26
- Hits: 6330
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังนักลงทุนกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนวิเคราะห์ว่าราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นประกอบกับการปรับลดกำลังการผลิตจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบโอเปก จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ในสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดานในสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น 40,750 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.พ. 60 ไปสู่ระดับ 4.748 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินในตะกร้าหลัก ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในการซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบที่ใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากสัญญามีราคาเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
+ รายงานประจำเดือนของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบโอเปกเปิดเผยว่าโอเปกผลิตน้ำมันดิบ 33.085 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ธ.ค. 59 ซึ่งปรับตัวลดลง 221,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 59 นอกจากนี้ โอเปกปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกในปี 2560 โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 120,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับระดับ 300,000 บาร์เรลต่อวันที่คาดการณ์ไว้ในเดือนก่อนหน้า
+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 13 ม.ค. 60 ปรับตัวลดลง 5.04 ล้านบาร์เรล ไปอยู่ที่ระดับ 479.23 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 342,000 บาร์เรล นอกจากนี้ ปริมาณตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับตัวลดลง 1.01 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินที่เข้ามาทำกำไรระยะสั้นจากฝั่งตะวันตกปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก จากการกลับมาดำเนินการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หลังปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากการกลับมาดำเนินการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หลังปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม และศรีลังกา
ไทยออยลค์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 52-57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกมีความชัดเจนมากขึ้น หลังซาอุดิอาระเบียเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้นว่าลูกค้ากลุ่มใดที่โดนปรับลดปริมาณการส่งออกลง สำหรับในเอเชียจะถูกปรับลดโดยเฉลี่ยลงร้อยละ 5-10 นอกจากนี้ คูเวตและอิรักออกมาเปิดเผยว่าปริมาณการผลิตล่าสุดได้ปรับลดลงแล้ว โดยคูเวตได้ปรับลดปริมาณการผลิตลงมาอยู่ที่ระดับ 2.707 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 2.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก่อน ขณะที่อิรักปรับลดลงไปแล้วกว่า 170,000 บาร์เรลต่อวัน และภายในสัปดาห์นี้เตรียมที่จะปรับลดกำลังการผลิตอีก 40,000 บาร์เรลต่อวัน เพื่อให้ไปเป็นไปตามข้อตกลงที่จะปรับลดปริมาณการผลิตลง 210,000 บาร์เรลต่อวัน
จับตาสถานการณ์ในลิเบียหลังรัฐบาลเตรียมประกาศยุติการส่งมอบน้ำมันดิบจากท่าเรือทางด้านตะวันตกจากเหตุสุดวิสัย หลังพบมีการลักลอบน้ำมันดิบที่ท่าเรือ ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นช้าลง โดยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 750,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 600,000 บาร์เรลต่อวัน
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ หลังราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มจำนวนแท่นขุดเจาะขึ้นมาอยู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ธ.ค. 2558