- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 16 January 2017 22:16
- Hits: 6960
ไทยออยล์ คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน 16 – 20 ม.ค.60 และสรุปสถานการณ์ฯ 9 -13 ม.ค.60
ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง หลังโอเปกเดินหน้าลดกำลังการผลิตลงต่อเนื่อง ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 50 – 55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 52 – 57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (16 – 20 ม.ค. 60)
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะทรงตัวในระดับสูง เนื่องจากข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หลังซาอุดิอาระเบียเปิดเผยว่าได้ทำการลดปริมาณการผลิตมากกว่าที่ได้ตกลงไว้และเปิดเผยรายละเอียดว่าลูกค้ากลุ่มใดบ้างที่ถูกปรับลดปริมาณการส่งออกลง นอกจากนี้ ทางด้านคูเวตและอิรัก เปิดเผยว่าปริมาณการผลิตในปัจจุบันปรับลดลงแล้วตามที่ได้ตกลงไว้ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นและปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
ข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกมีความชัดเจนมากขึ้น หลังล่าสุด ซาอุดิอาระเบียเปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบล่าสุดปรับลดลงมากกว่าที่ได้ตกลงไว้และล่าสุดปริมาณการผลิตลดลงต่ำกว่าระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันแล้ว นอกจากนี้ยังได้ทำการเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้นว่าลูกค้ากลุ่มใดบ้างที่ถูกปรับลดปริมาณการส่งออกลง โดยเฉลี่ยในเอเชียถูกปรับลดร้อยละ 5 - 10 นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตล่าสุดของคูเวตและอิรักล่าสุดในเดือน ม.ค. 60 ปรับลดลง 193,000 และ 170,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า ตามลำดับ โดยอิรักเตรียมที่จะปรับลดกำลังการผลิตอีก 40,000 บาร์เรลต่อวันในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ไปเป็นไปตามข้อตกลงที่จะปรับลดปริมาณการผลิตลง 210,000 บาร์เรลต่อวัน
จับตาสถานการณ์ในลิเบียหลังล่าสุดรัฐบาลเตรียมประกาศยุติการส่งมอบน้ำมันดิบจากท่าเรือทางด้านตะวันตกจากเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) เนื่องจากปัญหาการลักลอบขโมยน้ำมันที่ท่าเรือ ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นช้าลง ภายหลังจากการเปิดท่อขนส่งและแหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Sharara และ El Feel ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 708,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 600,000 บาร์เรลต่อวัน
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะทรงตัวในระดับสูง เนื่องจากการนำเข้าน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับสูงและปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 ม.ค. 60 ปรับเพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ 483.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 58 โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในปี 2560 จากเดิมที่คาดการณ์จะปรับลดลงมาอยู่ที่ 8.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็น เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ และยูโรโซน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ จำนวนที่อยู่อาศัยที่กำลังก่อสร้างสหรัฐฯ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (9 – 13 ม.ค. 60)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 1.62 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 52.37 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลง 1.65 เหรียญสหรัฐฯ ปิดที่ 55.45 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 53.90 เหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากตลาดกังวลกับท่าทีของอิรักที่อาจไม่สามารถปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงได้ หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิรักปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากปริมาณการผลิตของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ปรับเพิ่มการคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในปี 60 จะเพิ่มขึ้น 0.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 9.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน